SET สัปดาห์นี้ฟื้นตัวต่อ! พร้อมจับตา 3 ปัจจัยเด่นหนุนหุ้น 5 ธีมเด่นน่าเก็บ
Weekly outlook :ฟื้นตัวต่อแนวต้าน 1738/1753 จุด แนวรับ 1711/1700 จุด
Weekly outlook : ฟื้นตัวต่อแนวต้าน 1738/1753 จุด แนวรับ 1711/1700 จุด
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (11-15 มิ.ย.) ภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้คาดตลาดฟื้นตัวต่อถือเป็ นสัปดาห์แห่งการประชุมธนาคารของประเทศผู้นำต่างๆ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีการ Take Action กันเกิดขึ้นนำโดยการประชุม FOMC 12-13 มิ.ย.นี้ ทั้ง Nomura และ Consensus คาด FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้ง ที่ีสองในรอบนี้ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตดี ทั้งนี้ US Bond Yield 10 ปีปรับตัวขึ้นมาสู่บริเวณ 2.90 – 3.0% แล้ว (Nomura วางเป้าไว้ที่ 3.0-3.25% ภายใต้สมมติฐานที่ FED ขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้) สะท้อนตลาดตอบรับไปค่อนข้างมาก
ดังนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในรอบคาดกระทบต่อตลาดจำกัด ส่วนทางฝั่งยุโรป ECB ส่งสัญญาณเตรียมพิจารณาการถอน QE ในการประชุม 14 มิ.ย.นี้ แต่อย่างไรก็ดี Nomura ประเมิน ECB จะประกาศประเด็นดังกล่าวในเดือนก.ค. และตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนที่ต่ำกว่าคาดในช่วงที่ผ่านมาทำให้ Nomura ปรับมุมมองว่า ECB จะใช้มาตรการ APP ไปจนถึงเดือน ธ.ค. (จากเดิมต.ค.) และให้โอกาสที่ ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. 2019 (จากเดิมมี.ค.2019) สะท้อน ECB ยังไม่เร่ง Tightening ซึ่งจะยังเป็นตัวหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่การประชุม BOJ 15 มิ.ย. คาดยังไม่มีการออกมาตรการใดๆเพิ่มเติม ส่วนในประเทศคาดมีแรงเก็งกำไรจาก FTSE Rebalance จะมีผลราคาปิดวันที่ 15 มิ.ย. ซึ่ง FTSE All World ประกาศออกมาแล้ว มีหุ้นไทยเข้าใหม่ 2 บริษัท คือ GULF เข้า FTSE Mid Cap และ TOA เข้า FTSE Small Cap
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม คือ 1) 12 มิ.ย. น่าจะได้เห็นความคืบหน้าทางการค้าในการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯและคิม จอง อึน ซึ่ง Trump ส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะลงนามข้อตกลงยุติสงครามกับเกาหลีได้ 2) 15มิ.ย. กำหนดยื่นคำขอรับใบอนุญาตสำหรับการประมูลคลื่น 1,800 MHz ซึ่งการที่ TRUE ไม่เข้าร่วมประมูล บ่งชีภาพการแข่งขันไม่รุนแรง บวกต่อกลุ่ม ICT 3) การประกาศหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับงวด 2H18ช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้
กลยุทธ์การลงทุน: คงน้ำหนักหุ้น 75% เน้นกลุ่ม Domestic ที่ฟื้นตัวจากภายใน และการเลือกตั้งเดินหน้าตาม Roadmap ค้าปลีก(CPALL, ROBINS), กลุ่มอิงการลงทุน(BBL,KBANK, AMATA, WHA,STEC,CK, PYLON, SEAFCO) อิงการท่องเที่ยว(ERW, BH) กลุ่มปิโตรเคมี (IVL)(Earnings play) และกลุ่ม Mid-Small Cap ที่กำไรฟื้นตัว(GOLD,STANLY, JUBILE, NYT)