“ศิริธัช” ฟ้องแพ่งสุทธิชัย-กรรมการ NMG เรียกค่าเสียหาย 52 ลบ.

“ศิริธัช โรจนพฤกษ์” ฟ้องแพ่งสุทธิชัย-กรรมการ NMG เรียกค่าเสียหาย 52 ลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศิริธัช โรจนพฤกษ์ ผู้ถือหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG เปิดเผยว่า ได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งกับบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป กรณีที่นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น และกรรมการทั้งหมดของ NMG รวมจำนวน 10 คน โดยจำเลยทั้ง 10 คนดังกล่าว มีหน้าที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี และให้ผู้ถือหุ้นทุกรายมีสิทธิเข้าประชุมและใช้สิทธิออกเสียง เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2558 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นเปิดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค

โดยปรากฏว่าผู้รับมอบฉันทะของนายศิริธัช ได้ไปลงทะเบียนกลับมีลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยทั้ง 10 คนไม่รับการลงทะเบียน โดยอ้างว่าจำเลยทั้ง 10 คนมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้รับมอบฉันทะจากนายศิริธัชเข้าร่วมประชุม และห้ามผู้ถือหุ้นรายอื่นๆเข้าร่วมประชุมซึ่งมีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกลงมติตามกฎหมาย แต่กลับให้ยินยอมให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆซึ่งแสดงตนเป็นชมรมคนรักเนชั่นหรือแสดงตนเป็นพวกพ้องของจำเลยทั้งทั้ง 10 คนให้เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นได้

ทั้งนี้เนื่องจากจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 ซึ่งเป็นกรรมการ เกรงว่า โจทก์หรือผู้ถือหุ้นอื่น อาจมีการเสนอให้ถอดถอนและแต่งตั้งกรรมการใหม่ ทำให้จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 8 ซึ่งเป็นกรรมการ คนใดคนหนึ่งต้องหลุดพ้นจากตำแหน่ง และไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นกรรมาการบริหารอีก ทำให้จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 จะสูญเสียอำนาจการบริหารกิจการ หลังจากนั้นจำเลยทั้ง 10 คน ได้ดำเนินการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นโดยให้กลุ่มผู้ถือหุ้นของพวกตนไปฝ่ายเดียว การกระทำของจำเลยทั้ง 10 คนเป็นการกระทำโดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ สำหรับกลุ่มพวกตัวเองที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารต่อไป อันเป็นการร่วมกันบริหารแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยปราศจากตัวแทนผู้ถือหุ้นในการตรวจสอบการบริหาร

ขณะที่จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 ห้ามและขัดขวางไม่ให้ตัวแทนของโจทก์เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อใช้สิทธิในการร่วมประชุมเพื่อออกเสียงในที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น และใช้สิทธิในการแต่งตั้งกรรมการหรือถอดถอนกรรมการบริษัท ใช้สิทธิที่จะเข้าร่วมใการตัดสินใจ และทราบถึงผลการตัดสินใจของบริษัทที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เป็นการกระทำในฐานะัจำเลยที่ 1 ซึ่งกระทำไปโดยไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำเช่นนั้นเป็นการกระทำต่อโจทย์โดยผิดกฎหมาย

สำหรับจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 ในฐานะกรรมการและผู้บริหารบริษัท ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างมีมาตรฐานทางจริยธรรมโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกรายโดยเท่าเทียมกัน แต่กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยควาซื่อสัตย์และทำการโดยสุจริต เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ฝ่ายเดียว อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมมาภิบาลและหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ด้านการที่จำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 ห้ามและขัดขวางไม่ให้ตัวแทนของโจทย์เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และใช้สิทธิในการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการบริษัทใช้สิทธิที่จะเข้่ร่วมในการตัดสินใจของบริษัทที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทเป็นการกระทำในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทจำเลยที่ 1 ซึ่งกระทำไปโดยไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำเช่นนั้นได้ เป็นการกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายทำให้โจทย์ได้รับความเสียหาย อันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 เมื่อการกระทำของจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 เป็นการกระทำในกิจการของบริษัทจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ย่อมต้องร่วมรับผิดชอบร่วมกับจำเลยที่ 2ถึงจำเลยที่ 10 รับผิดชอบต่อโจทย์ด้วย

ทั้งนี้นายศิริธัช จึงฟ้องให้จำเลยทั้ง 10 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

1.ค่าเสียหายที่ถูกตัดสิทธิไม่ให้เข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น

2.ค่าเสียหายที่ทำให้หลักทรัพย์ของนายศิริธัช มีมูลค่าตกต่ำลง เนื่องจากผู้บริหารไม่มีธรรมาภิบาล ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติหน้าที่โดยขัดต่อกฎหมายและข้อบังคับ เป็นเหตุให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนหรือถือหุ้น NMG

3.ค่าเสียโอกาส

รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 51,900,800 บาท พร้อมกันนี้ศาลได้รับคำฟ้อง และศาลได้นัดจำเลยทั้งหมด ในวันที่ 10 ส.ค. 2558 เวลา 13.30 น.

Back to top button