โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” JKN เคาะเป้า 13.20 บ. ชี้ผลงาน Q2 โตแกร่งรับรายได้ลิขสิทธ์หนังอินเดีย

โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" JKN เคาะเป้า 13.20 บ. ชี้ผลงาน Q2 โตแกร่งรับรายได้ลิขสิทธ์หนังอินเดีย จ่อเซ็นสัญญาขายลิขสิทธิ์หนังอินเดีย 3 เรื่องในกัมพูชา-เมียนมา


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN หลังผู้บริหารคงเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยราคาหุ้น JKN ปิดตลาดวานนี้ (12 มิ.ย. 61) ที่ระดับ 10.90 บาท บวก 1.05 บาท หรือ 10.66% สูงสุดที่ระดับ 11 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.85 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 139 ล้านบาท

ด้านนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 2/2561 เชื่อว่าจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์คอนเทนต์หลักที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัท ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัลที่ให้ความสนใจ เนื่องจากเนื้อหาและรูปแบบการถ่ายทอดเรื่องราวเข้าถึงกลุ่มผู้ชมคนไทยได้ดี ทำให้ง่ายต่อการติดตาม

ทั้งนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ไปออกอากาศสามารถทำตัวเลขเรตติ้งได้ดี จึงได้รับความสนใจจากสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัลอีกหลายช่อง ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ดังกล่าวเพิ่มเติม จากเดิมที่เป็นกลุ่มช่อง 3 ช่อง 8 และ Bright TV เพื่อนำไปออกอากาศสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์และสร้างฐานกลุ่มผู้ชมให้แก่ทางสถานี

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ระบุคงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมให้ราคาเป้าหมายใหม่ปี  2561 ที่ 13.20 บาท หลังมองทิศทางผลดำเนินงานของ JKN ในไตรมาส 2/2561 มีมุมมองเชิงบวก โดยคาดจะได้แรงหนุนจากการทยอยส่งมอบ Content หนังและซีรีส์เอเชียให้กับลูกค้าผู้ประกอบการดิจิทัลทีวี (มาร์จิ้นสูง) ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน รวมทั้งคาดเริ่มรับรู้รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ให้กับลูกค้าใน CLMV ที่ล่าสุดอยู่ระหว่างเตรียมเซ็นสัญญาขายลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดีย 3 เรื่อง ให้กับลูกค้าในประเทศกัมพูชาและเมียนมา (พม่า)

ขณะที่ค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีการจัดงานแสดง Content น้อยลง และไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินเช่นปีก่อน ทำให้ยังคาดปี 2561 จะมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.50% จากปีก่อนตามประมาณการเดิม ดังนั้น

Back to top button