สังคมข่าวหุ้น

* ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็พลิกกลับมาปิดบวกได้เสียที หลังจากตกอยู่ในภาวะหน้ามืดกับกระดานเลือดที่แดงไปทั่วทุกหุ้น แต่หุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นถือเป็นเพียงแค่การรีบาวด์ทางเทคนิคเท่านั้น เพราะในแง่ปัจจัยลบกดดันจากภายนอกไม่ว่าจะเป็น “สงครามการค้า” หรือกรณี “การประชุมกลุ่มโอเปก” ล้วนยังต้องรอความชัดเจนทั้งสิ้น ทำให้ปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทยยังคงไม่จบสิ้นภายในเร็ววัน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ควรถอยออกมายืนดูห่าง ๆ แล้วถือเงินสดกอดให้แน่นไว้เป็นหลัก รอให้ฝุ่นควันจางหายเสียก่อน เพราะไม่มีอะไรช้าเกินไปหรอก


นิวส์เวฟ

* ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็พลิกกลับมาปิดบวกได้เสียที หลังจากตกอยู่ในภาวะหน้ามืดกับกระดานเลือดที่แดงไปทั่วทุกหุ้น แต่หุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นถือเป็นเพียงแค่การรีบาวด์ทางเทคนิคเท่านั้น เพราะในแง่ปัจจัยลบกดดันจากภายนอกไม่ว่าจะเป็น “สงครามการค้า” หรือกรณี “การประชุมกลุ่มโอเปก” ล้วนยังต้องรอความชัดเจนทั้งสิ้น ทำให้ปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทยยังคงไม่จบสิ้นภายในเร็ววัน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุด ควรถอยออกมายืนดูห่าง ๆ แล้วถือเงินสดกอดให้แน่นไว้เป็นหลัก รอให้ฝุ่นควันจางหายเสียก่อน เพราะไม่มีอะไรช้าเกินไปหรอก

* GPSC กับกรณีเข้าซื้อหุ้น GLOW ถือเป็นหนึ่งในดีลที่โผล่ขึ้นมาบนหน้ากระแสข่าวและได้เห็นความชัดเจนจากทุกฝ่ายแบบไฮสปีด โดย GPSC ประกาศเป็นทางการแล้วว่า จะใช้เงินลงทุนเกือบ 1 แสนล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น GLOW ในสัดส่วน 69% ที่ราคาหุ้นละ 96.50 บาท พร้อมกับเทนเดอร์ในสัดส่วนที่เหลือ (ภายใต้ราคาเดียวกัน) เท่ากับเบ็ดเสร็จแล้วหากได้หุ้น GLOW ครบ 100% ก็คิดเป็นเงินรวม 1.4 แสนล้านบาท

* สำหรับประเด็นที่ทำให้หุ้น GPSC ดิ่งลงเหวแรงกว่า 6% ทันที ตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด ไม่ใช่เป็นเพราะเกิดอาการ “Sell on fact” แต่เป็นเพราะวิตกกรณีทางบริษัทต้องกู้ยืมเงินจำนวน 1.4 แสนล้านบาท จากสถาบันการเงินหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อรองรับการทำธุรกรรม โดยหนึ่งในเงื่อนไขของสินเชื่อเงินกู้ระยะสั้น ต้องเดินหน้าแผนปรับโครงสร้างเงินทุนบริษัท และอาจต้องเพิ่มทุน 7.4 หมื่นล้านบาท และยังเตรียมออกหุ้นกู้อีก 6.8 หมื่นล้านบาท พ่วงเข้าไปอีก

* แน่นอนว่าไม่มีหุ้นตัวไหนที่ราคาทนได้กับคำว่าเพิ่มทุน หุ้น GPSC ก็เลยโดนกระหน่ำเทขายออกมาอย่างหนัก จนกดดันให้หุ้นวูบไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 66 บาท ยังดีที่สุดท้ายมีแรงซื้อกลับมาและทำให้ราคาปิดลบไปไม่ถึง 1% สำหรับดีลลงทุนนี้ เท่าที่ลองไล่ดูมุมมองล่าสุดของนักวิเคราะห์หลายราย เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ตกอยู่ในภาวะเสียงแตกอย่างมาก มีทั้งมองเชิงบวกและเชิงลบแตกต่างกันไป ฝั่งมองบวก ได้คาดว่านี่คือโอกาสดีของ GPSC ที่จะได้เพิ่มพอร์ตธุรกิจไฟฟ้าแบบรวดเร็ว และ GLOW ยังถือเป็นบริษัทที่มีกำไรสม่ำเสมอปีละ 8-9 พันล้านบาท (เฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี) ปันผลได้ต่อเนื่อง ทำให้สามารถเป็นจิ๊กซอว์ต่อยอดให้กับ GPSC ได้

* ซึ่งนี่ยังไม่รวมถึงประเด็นอื่น ๆ เช่น การหาแนวทางซินเนอร์จีธุรกิจร่วมกันในอนาคต หรือนำเชื้อเพลิงของกลุ่ม ปตท.มาป้อนให้โรงไฟฟ้า และหากมีการขายหุ้นเพิ่มทุนออกมาก็มีคนพร้อมใส่เงินเพิ่มทุน เพราะจำนวน 75% ของฐานผู้ถือหุ้น GPSC เป็นสัดส่วนของกลุ่ม ปตท.ล้วน ๆ (PTT-PTTGC-TOP-ไทยออยล์เพาเวอร์) จึงพร้อมใส่เงินทุนอยู่แล้ว ก็ต้องไปวัดใจส่วนที่เหลืออีก 25% เมื่อถึงเวลาแล้วจะยังเอาด้วยหรือไม่

* ส่วนฝั่งมองลบ ค่อนข้างวิตกกังวลกับประเด็น D/E ของบริษัทที่จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดหลายเท่าตัว ถ้าอิง D/E ในปัจจุบัน 0.5 เท่า อาจจะกลายเป็น 2.5-3 เท่า ทันทีหลังปิดดีล แน่นอนแผนการเพิ่มทุนจะเข้าช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้และกดให้ค่า D/E ถอยต่ำลงได้ในภายหลัง แต่โจทย์ใหญ่ที่หลายฝ่ายอาจยังไม่เชื่อมั่นพอ คือ การได้ GLOW มาอยู่ภายใต้ปีก GPSC จะตอบโจทย์ในเชิงธุรกิจหรือเพิ่มกำไรให้บริษัทได้ขนาดไหน ? เพราะถ้าตามดูผลการดำเนินงาน GLOW มาเรื่อย ๆ จะเห็นได้ว่า ฐานกำไรทรงตัวอยู่ในกรอบ 8-9 พันล้านบาท ติดต่อกันมาหลายปีแล้วเช่นกัน และยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ GLOW โตได้มากกว่านี้ และยังไม่รวมกรณีภาระดอกเบี้ยที่ต้องสูงมากขึ้นอีกนะ

* ในมุมมองของ “นิวส์เวฟ” การที่ GPSC ตัดสินใจจะใช้เงินลงทุนสูงมหาศาลระดับเกิน 1 แสนล้านบาท ก็คงเล็งเห็นปัจจัยบวกบางอย่างที่ตลาดอาจยังมองไม่เห็น (ในตอนนี้) และต้องมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าสามารถสร้างโอกาสให้ธุรกิจได้ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่รับรู้ส่วนแบ่งการลงทุนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราในฐานะนักลงทุนหากมีหุ้นทั้ง 2 บริษัทอยู่ในมือ หรือคนที่คิดจะเข้าซื้อควรถอยกลับมาตั้งโจทย์และคิดคำนวณให้ดีเหมือนกัน ถ้าจะซื้อ GPSC ตอนนี้ ในระยะสั้นหุ้นก็หนีไม่พ้นแรงกดดันประเด็นเพิ่มทุน และระยะยาวต้องใส่เงินเพิ่มทุนตามสัดส่วน

* ถ้าจะเข้าซื้อ GLOW แม้ราคากระดานล่าสุด 94.25 บาท ต่ำกว่าราคาเสนอซื้อ 96.50 บาท แต่ด้วยส่วนต่างของราคาในกระดานปัจจุบันเทียบกับราคาเสนอซื้อเท่ากับเหลือแคบเพียง 2% ยังคุ้มที่จะเสี่ยงหรือไม่ แน่นอน คำตอบการลงทุนไม่มีอะไรตายตัวหรือถูกต้องแบบ 100% เพราะ “กลยุทธ์-ต้นทุน-มุมมอง-ศักยภาพรับความเสี่ยง” ล้วนแตกต่างกัน แต่ถ้าลองนำปัจจัยบวกและลบมาหักล้างกัน อย่างน้อยน่าจะพอได้คำตอบออกมาแล้วว่า ภายใต้ประเด็นที่เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ขณะนี้ หุ้น GPSC และ GLOW ยังเหมาะสมกับเราหรือไม่ *

Back to top button