สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 20 มิ.ย. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 7 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,657.80 จุด ลดลง 42.41 จุด หรือ -0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,767.32 จุด เพิ่มขึ้น 4.73 จุด หรือ +0.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,781.51 จุด เพิ่มขึ้น 55.93 จุด หรือ +0.72%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 384.29 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,695.16 จุด เพิ่มขึ้น 17.19 จุด หรือ +0.14% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,372.31 จุด ลดลง 18.32 จุด หรือ -0.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,627.40 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.31%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายยาสูบ ซึ่งรวมถึงหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ในอังกฤษได้แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,627.40 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.31%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 66.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 34 เซนต์ หรือเกือบ 0.5% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึงส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1274.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.4 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 16.309 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ 874.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 957.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.39 เยน จากระดับ 110.08 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9957 ฟรังก์ จากระดับ 0.9950 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1589 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1575 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3186 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3169 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7371 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7377 ดอลลาร์สหรัฐ