ดีลเทนเดอร์ LH ดูง่าย ๆ แต่ชวนคิด!
เรียกเสียงฮือฮาไปไม่น้อย กรณีเจ้าสัวอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย อย่าง “อนันต์ อัศวโภคิน” ประกาศฟ้าผ่าทุ่มเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อขอทำคำเสนอซื้อ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) หุ้น บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เพิ่ม 10%
แฉทุกวันทันเกมหุ้น
เรียกเสียงฮือฮาไปไม่น้อย กรณีเจ้าสัวอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย อย่าง “อนันต์ อัศวโภคิน” ประกาศฟ้าผ่าทุ่มเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท เพื่อขอทำคำเสนอซื้อ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) หุ้น บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เพิ่ม 10%
เกิดคำถามตามมามากมาย โดยเฉพาะเมื่อประกาศราคาเทนเดอร์ฯ สูงกว่าราคาเปิดการซื้อขาย ณ วันแจ้งการอนุมัติของคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมาถึงราว 7%
แน่นอนคำถามที่เกิดขึ้นคงหนีไม่พ้นที่ว่า หนึ่ง เหตุใดจึงไม่ทยอยซื้อบนกระดานทั้งที่ต้นทุนน่าจะถูกกว่า? สอง ทำไมต้องเป็น 10%? และสาม มีแผนดำเนินการกับหุ้นที่จะได้ถือครองเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่?
ไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการ สำหรับคำถามที่ 1 แต่หากอ้างอิงจากหลักการทั่วไป ก็ถือว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายการใช้ข้อมูลภายในอันมีสาระสำคัญที่มีผลต่อราคาหุ้น และยังไม่เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะ เพราะการไล่ซื้อหุ้นบนกระดานมีหลายเงื่อนไขที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อน
แต่ต้องย้ำว่า หากเป็นไปตามหลักการโดยทั่วไปที่ว่านี้ นั่นหมายถึงกำลังจะมีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่มีผลต่อพัฒนาการของ LH ทั้งในแง่ของปัจจัยพื้นฐานบริษัท และราคาหุ้นในช่วงสั้น เกิดขึ้น “จริง!” ในอนาคตอันใกล้
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบไม่พบข้อมูลใด ๆ ที่น่าจะมีผลต่อพัฒนาการของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ หรือแม้นว่าบังเอิญมีอะไรในกอไผ่ “เจ้าสัวอนันต์” เองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าวได้ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานบริหาร หรือแม้กระทั่งเป็นกรรมการอีกแล้ว…ปัจจุบันเป็นเพียงผู้ถือหุ้นใหญ่เท่านั้น!
ส่วนคำถามที่ 2 และ 3 ถือว่ายังพอมีคำอธิบายเพื่อแก้ขัดอารมณ์ของผู้คนในแวดวงได้อยู่บ้าง แต่ในทางกลับกัน จะเป็นการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นให้มีเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้น คงสุดแล้วแต่ใครจะพิจารณาหรือคิดเห็นกันอย่างไร
เบื้องต้น บริษัทฯ ระบุถึงเหตุผลและวัตถุประสงค์ของการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น ตามที่ได้แจ้งต่อตลาดฯ ไว้ว่า
“นายอนันต์มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการลงทุนในบริษัทฯ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนในการลงทุน”
หากให้ตีความด้วยการแปลไทยเป็นไทยแบบเรียบง่าย ชนิดชั้นเดียวเชิงเดียว ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เจ้าสัวอนันต์ซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้รับผลตอบแทน (ปันผล) ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่สูงขึ้น แต่ต้องไม่ลืมว่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งถือเป็นบทเรียนชั้นดีที่สอนให้ อย่ามองผ่านอะไรในตลาดหุ้นเพียงแค่ผิวเผินเป็นอันขาด!
เป็นที่น่าสนใจว่าการประกาศ ทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน (Voluntary Partial Tender Offer) ครั้งนี้ เจ้าสัวอนันต์มีอาวุธอานุภาพสูงติดมือมาเพื่อให้บอร์ด LH ไว้ใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติด้วย
นั่นคือ!…หนังสือยืนยันการสนับสนุนทางการเงินจาก “ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB”
เช่นนั้นจึงเกิดการตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ระดับ “เฮียตึ๋ง” หรือ “อนันต์ อัศวโภคิน” จะยอมเสียดอกเบี้ยกู้เงินมาซื้อหุ้นเพื่อกินเงินปันผลที่ยีลด์ระดับ 6-7% เพียงเท่านั้นจริงหรือ หนำซ้ำยังเป็นการซื้อด้วยราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายตามท้องตลาด เสมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่าจะต้องเทนเดอร์ฯ ให้ได้ตามสัดส่วนที่ตั้งเป้าไว้
ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่คงจะไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวผู้ซื้อ และผู้สนับสนุนด้านการเงิน ว่าการดำเนินธุรกรรมครั้งนี้จะสร้างความคุ้มค่ามากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม ต้องถือเป็นเรื่องน่าชมเชยที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างพร้อมใจกันเก็บรักษาข้อมูลเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดี มิเช่นนั้นเราคงได้เห็นราคาหุ้น LH วิ่งรับอย่างบ้าคลั่งตั้งแต่ก่อนหน้าการประชุมบอร์ดจะเกิดขึ้น อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ยังคงเป็นที่น่าจับตามอง เพราะการปรากฏชื่อของ SCB นั้นส่งผลให้ต้องคิดถึงอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวเกี่ยวกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งที่มีการดึงขั้วอำนาจทางการเมืองมาร่วมถือหุ้น เกิดขึ้นด้วย
และอย่าได้ลืมเชียวว่า ดีลที่เกิดขึ้นในแบงก์สีม่วงแห่งนี้พร้อมจะสร้าง “เซอร์ไพรส์” ให้ได้เสมอ!
อิ อิ อิ