AEONTS บวกเกือบ 4% นิวไฮในรอบ 1 เดือน โบรกฯคาดกำไร Q1/61 โต 32% สู่ระดับ 817 ลบ.
AEONTS บวกเกือบ 4% นิวไฮในรอบ 1 เดือน โบรกฯคาดกำไร Q1/61 โต 32% สู่ระดับ 817 ลบ. โดย ณ เวลา 15.25 น. ราคาอยู่ที่ 163.50 บาท บวก 6 บาท หรือ 3.81% สูงสุดที่ 164.50 บาท ต่ำสุดที่ 155 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 98.61 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS ณ เวลา 15.25 น. ราคาอยู่ที่ 163.50 บาท บวก 6 บาท หรือ 3.81% สูงสุดที่ 164.50 บาท ต่ำสุดที่ 155 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 98.61 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นยืนที่ระดับ 165.50 บาท เมื่อวันที่ 23 พ.ค.61
ด้าน บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ (26 มิ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” AEONTS ราคาเป้าหมาย 192 บาท/หุ้น โดยหลังจากที่สร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิต 3.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน ในปี 60 (สิ้นสุด ก.พ.) ทำให้มองว่า AEONTS จะเน้นการเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ หนุนโดยสินเชื่อบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน จากการที่ลูกค้ากว่า 75% เลือกจ่ายขั้นต่ำ 10% และที่เหลือผ่อนจ่ายใน 10 เดือน ทำให้มองว่าผลประกอบการไตรมาส 1/61 จะมีการเติบโตที่สูง ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2-3 (เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน เป็น 3.9 หมื่นล้านบาทในปี 60) หนุนโดยการตลาดและการขยายวงเงินของบัตร
ขณะที่สินเชื่อจะเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง 61 หลังจากที่ AEONTS เพิ่มวงเงินให้ลูกค้าในครึ่งปีหลัง และลูกค้าใหม่ที่ได้จาก Big C มีอัตราการอนุมัติบัตรที่ 70% เทียบกับปัจจุบัน และปีก่อนที่ 65% และ 50% ตามลำดับ ปัจจุบัน AEONTS มีสัดส่วนในตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล 25% และจะเพิ่มขึ้นผ่านการตลาดเพื่อหนุนการเติบโต
อย่างไรก็ตาม การขยายวงเงินและการอนุมัติบัตรยังไม่ทำให้ NPL เพิ่มขึ้น ทำให้ AEONTS สามารถเน้นขยายสินเชื่อส่วนบุคคลต่อได้ และคาดว่าการตั้งสำรอง 5.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน เป็นเชิงรับ และความเสี่ยงในเชิงลบจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และสินเชื่อจะชดเชยด้วยความเสี่ยงในเชิงบวก
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ AEONTS ที่ลดลงมาจาก 194 บาท เป็นจังหวะในการสะสม โดยราคาปัจจุบันคิดเป็น PER ที่ 11.2 เท่า และ PBV 2.1 เท่าสำหรับปี 61 ด้วยราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 52% YTD จากปีก่อนหน้า (หลังจาก 3 ปีที่ไม่มีการเติบโต) ทำให้คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1/61 จะอยู่ที่ 817 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน และ 10% จากไตรมาสก่อน (ไม่รวมกำไรในไตรมาส 4) ในมุมมองของบล.ทิสโก้ ผลประกอบการจะอยู่ที่ไตรมาสละราว 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 600 ล้านบาท เป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น แนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 192 บาท (GGM)