สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 26 มิ.ย. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายและจับตานโยบายการค้าของสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐได้ออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากบรรดาประเทศคู่ค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,283.11 จุด เพิ่มขึ้น 30.31 จุด หรือ +0.12% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,561.63 จุด เพิ่มขึ้น 29.62 จุด หรือ +0.39% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,723.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด หรือ +0.22%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้ารายอื่นๆ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.02% ปิดที่ 377.25 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,537.92 จุด เพิ่มขึ้น 28.08 จุด หรือ +0.37% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,234.34 จุด ลดลง 35.99 จุด หรือ -0.29% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,281.29 จุด ลดลง 2.57 จุด หรือ -0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มต่างๆที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,537.92 จุด เพิ่มขึ้น 28.08 จุด หรือ +0.37%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐได้สั่งห้ามบริษัทน้ำมันซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถในการส่งออกน้ำมันของลิเบียยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเช่นกัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 2.45 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 70.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 76.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือนเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,259.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.8 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 16.25 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 871.83 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 954.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกต่อข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐที่ยังคงขยายตัวในเดือนเม.ย.

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.08 เยน จากระดับ 109.45 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9912 ฟรังก์ จากระดับ 0.9857 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1647 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1703 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3227 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3282 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7391 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7404 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button