หุ้นไทยแพง?
*เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน “โมนิก้า” ได้มีเวลานั่งอ่านข่าวสารบนเว็บไซต์ข่าวหุ้น หรือ www.kaohoon.com แบบละเอียดทุกบรรทัด จนสุดท้ายมาสะดุดใจเอาที่เรื่องหุ้นไทยแพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก เลยเกิดอาการหัวใจสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า ทีมกระจอกข่าวหัวเห็ดจะเป็นคนเอาข้อมูลดังกล่าวมาตีแผ่ เพื่อทำให้สังคมหุ้นได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ฝรั่งดองทิ้งหุ้นไทยไม่เลิกนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน “โมนิก้า” ได้มีเวลานั่งอ่านข่าวสารบนเว็บไซต์ข่าวหุ้น หรือ www.kaohoon.com แบบละเอียดทุกบรรทัด จนสุดท้ายมาสะดุดใจเอาที่เรื่องหุ้นไทยแพงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก เลยเกิดอาการหัวใจสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่า ทีมกระจอกข่าวหัวเห็ดจะเป็นคนเอาข้อมูลดังกล่าวมาตีแผ่ เพื่อทำให้สังคมหุ้นได้เข้าใจถึงเหตุผลที่ฝรั่งดองทิ้งหุ้นไทยไม่เลิกนะคะ
*เมื่อทุกอย่างออกมาในรูปนี้ “โมนิก้า” เลยถือโอกาสโหนกระแสกับน้อง ๆ ทีมเว็บไซต์ไปด้วยเลย เพราะเป็นมิติใหม่ในการรับรู้ข่าวสาร และยังทำให้ทุกคนเลิกงมงายในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริงเสียที หลังมีการประเมินไปถึงขั้นที่ว่า Forward P/E ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 18 เท่า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน จึงทำให้การลงทุนในช่วงนี้ดูไม่สวยงามเลยนะออเจ้า
*เมื่อทุกคนเข้าใจไปในทางเดียวกัน “โมนิก้า” จึงไม่ขออธิบายการร่วงลงของดัชนีลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,584.68 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,595.58 จุด ลบไป 3.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.45 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนที่บอกให้นักเล่นพึงระลึกไว้ในใจตลอดเวลาว่า “ขึ้นเพื่อลง” กับ “ไหลลงยาว” คือภาพของการลงทุนที่จะเกิดขึ้นบ่อยต่อจากนี้ จึงต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกให้ดีนะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ไม่ได้มองการเด้งกลับของน้องสวย BEAUTY ขึ้นมายืนอยู่ที่ 12.20 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.57 พันล้านบาท เป็นการกลับทิศทางอย่างบูรณาการ เพราะในมุมการสาดทิ้งจนหุ้นลงมาถึง 11.30 บาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่ายังมีแรงเทขายรออยู่อีกเป็นจำนวนมาก แถมหุ้นยังเทรดบนค่า P/E 28 เท่า เดี๊ยนถึงมองไม่เห็นความจำเป็นในการเอาตัวเข้าแลกเลยนะคะ
*เหมือนกับในรายของ CPALL หลายคนเม้าท์มอยให้ฟังว่า ดีอย่างนั้น..ดีอย่างนี้ แต่ก็โดนเทขายไม่เลิกสักที จนหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ 73.50 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.91 พันล้านบาท โดยที่ค่า P/E ของหุ้นวันนี้อยู่ที่ระดับ 33 เท่าแบบนี้ “โมนิก้า” ขอถามหน่อยเถอะว่า วันนี้จะมีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช้อนหุ้นตัวนี้อีกไหม? ในเมื่อทุกคนต่างถอยฉากเพื่อรอดูสถานการณ์กันทั้งนั้นเจ้าค่ะ
*คล้ายคลึงกับสถานการณ์ของพ่อดอกมะลิ JAS โดนกระทำชำเราอย่างยาวนาน จนดอกร่วงแทบจะหมดต้นแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนในอดีตทุกกระเบียดนิ้ว เพราะในช่วงที่หุ้นขึ้นแรง ๆ มีการใช้เครื่องมือทางการเงินมาปั่นกระแสผู้เล่นทุกครั้ง พอหมดสตอรี่เพื่อทำโฆษณาชวนเชื่อ ราคาหุ้นก็ร่วงลงเป็นนกปีกหัก เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่หุ้นทิ้งตัวลงมาปิดที่ 4.32 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 3.15% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 288 ล้านบาทไงล่ะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ TKN พอหมดสตอรี่เรื่อง growth ไม่มีอะไรต้องจดจำอีกต่อไป ราคาหุ้นก็โรยตัวลงมาเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นฐานแนวรับที่มั่นคงอยู่ตรงไหน? บวกกับกระแสสาหร่ายทรงเครื่องไม่ฟีเวอร์เหมือนแต่ก่อน รวมทั้งแมงลือเม้าท์มอยกันสนุกปากเหลือเกินว่า สาวกของ เฮีย ล. ถอนสมอกันหมดยวง หุ้นถึงรูดมหาราชลงมาปิดที่ 14.70 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 5.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 153 ล้านบาทอย่างง่ายดายเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งหุ้นที่ทำให้ “โมนิก้า” เห็นภาพใส่เกียร์ถอยแบบสุดซอย น่าจะพุ่งเป้าไปยังเครื่องดื่มตรากระบือ CBG ถูกเทขายมานานนับสัปดาห์ แต่ยังไม่มีวี่แววแรงเทขายจะเบาบางลงเลย หุ้นเลยจมปลักอยู่ในทิศทางขาลงชนิดที่กู่ไม่กลับ แถมเมื่อนำมาเทียบกับการเทรดในระดับ P/E 42 เท่า ย่อมทำให้เห็นว่า ราคาปิดที่ 47 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 7.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 293 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้ลงอีกเยอะนะตัวเอง
*เหมือนกับในรายของ GGC พอความแตกดังโพละ ทุกคนก็ถล่มเทขายหุ้นทิ้งไม่มีชิ้นดี จนหุ้นลงมาปิดที่ 9.25บาท ลบไป 2.95 บาท หรือลงไป 24.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 526 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทิ้งหุ้นแบบจริงจัง เพราะมองในแง่สินค้าหายไปบานตะเกียง ย่อมมีเรื่องของคนในเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และเรื่องนี้ก็ทำให้บริษัทแปดเปื้อนมลทินอย่างหนักเสียด้วย จึงต้องสาดหุ้นทิ้งสถานเดียว เพราะไม่รู้ว่า จะมีอะไรโผล่ออกมาอีกนะซี
*เมื่อหุ้นลูกมีปัญหาตัวเลขสินค้าคงคลังไม่ตรงกับความเป็นจริง PTTGC ในฐานะแม่ที่ชุบเลี้ยงมาเป็นอย่างดี จึงโดนผลกระทบดังกล่าวด้วยเต็ม ๆ เพราะในเมื่องบของบริษัทลูกเริ่มมีปัญหา ย่อมมีบางส่วนกระเทือนถึงบริษัทแม่อย่างมีนัยสำคัญ ผู้เล่นหลักเลยพากันทิ้งหุ้นออกมาตลอดช่วงภาคบ่าย จนสุดท้ายหุ้นลงมาปิดที่ 73 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 พันล้านบาท มันมีความเป็นไปได้ที่ต้องโดนทิ้งต่อนะคะ
*คล้ายกับกรณีของ ดอย..โอ้..ดอย ของแม่หญิงช่างเจรจา เป็นอีกช็อตที่ทำให้แมงลือชี้เป้าไปยัง เสี่ย ปู่ ขาใหญ่ของตลาดหุ้นที่ได้หุ้น DOD เก็บไว้ในพอร์ตเป็นจำนวนมาก เพราการร่วงหนัก ๆ ของหุ้นมันเกิดจากการทิ้งไม้ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แมงเม่าไปดูกันเอาเองว่า การทิ้งตัวของหุ้นลงมาปิดที่ 12.20 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 500 ล้านบาท มันเกี่ยวกับเรื่องที่แมงลือเขาเม้าท์ไว้จริงไหม?