สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 10 ก.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเป๊ปซี่โค นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเริ่มหันเหความสนใจออกจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และซิตี้กรุ๊ป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,919.66 จุด พุ่งขึ้น 143.07 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,793.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือ +0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,759.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.00 จุด หรือ +0.04%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนหันเหความสนใจออกจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาด

ดัชนี  Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 386.25 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,434.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.25 จุด หรือ +0.67% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,609.85 จุด เพิ่มขึ้น 65.96 จุด หรือ +0.53% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,692.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.05 จุด หรือ +0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางการเมืองของอังกฤษ และอนาคตของอังกฤษหลังจากการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,692.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.05 จุด +0.05%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า คนงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์และกาบองเปิดฉากผละงานประท้วงเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตเชื้อเพลิงภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม แรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐส่งสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือเกือบ 0.4% ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 78.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังทำให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,255.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.2 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 16.087 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 846.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 17.10 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 937.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น รวมทั้งข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.29 เยน จากระดับ 110.81 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9924 ฟรังก์ จากระดับ 0.9920 ฟรังก์

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3256 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7402 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7466 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.1749 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1748 ดอลลาร์

 

Back to top button