สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 17 ก.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนจุดยืนของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,119.89 จุด เพิ่มขึ้น 55.53 จุด หรือ +0.22% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,809.55 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด หรือ +0.40% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,855.12 จุด เพิ่มขึ้น 49.40 จุด หรือ +0.63%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) ขานรับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ในระหว่างการแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 384.98 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,661.54 จุด เพิ่มขึ้น 100.52 จุด หรือ +0.80% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,422.54 จุด เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ +0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,626.33 จุด เพิ่มขึ้น 25.88 จุด หรือ +0.34%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นลอนดอนเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในอังกฤษอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐสภาอังกฤษมีมติเห็นชอบแผนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เมื่อวานนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,626.33 จุด เพิ่มขึ้น 25.88 จุด หรือ +0.34%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 12.4 ดอลลาร์ หรือ 1.00% ปิดที่ 1,227.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2560
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 19.5 เซนต์ หรือ 1.23% ปิดที่ 15.617 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 819.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 909.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) หลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวลิเบียเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ขยับขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 68.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือเกือบ 0.5% ปิดที่ 72.6 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากพอ
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.84 เยน จากระดับ 112.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9993 ฟรังก์ จากระดับ 0.9968 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1663 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1713 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3124 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3231 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.7390 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7418 ดอลลาร์สหรัฐ