BBL จ่อเสิร์ฟกำไร Q2 เฉียด 9 พันลบ. หลังตั้งสำรองฯ ลดฮวบ แถม P/E-P/BV ต่ำ

BBL จ่อเสิร์ฟกำไร Q2/61 เฉียด 9 พันลบ. หลังตั้งสำรองฯ ลดฮวบ แถม P/E-P/BV ต่ำ


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลบทวิเคราะห์ของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BBL เตรียมประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/61 ในวันที่ 19 ก.ค.2561

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบข้อมูล ล่าสุด ณ 17 ก.ค.2561 พบว่า ค่า P/E ของ BBL อยู่ที่ระดับ 10.99 เท่า ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มธนาคารซึ่งอยู่ที่ 11.44 เท่า และต่ำกว่า SET ซึ่งอยู่ที่ระดับ 16.58 เท่า ส่วนอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV RATIO) อยู่ที่ 0.91 เท่า ต่ำกว่า SET ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.86 เท่า

นอกจากนี้ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (18 ก.ค.) ทรงตัวอยู่ที่ 194 บาทด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.71 ล้านบาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.19 พันล้านบาท ซึ่งยังคงมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมายโดยนักวิเคราะห์ที่ 229 บาท อยู่ 18%

ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ทยอยสะสม” หุ้น BBL ให้ราคาเป้าหมาย 229 บาทต่อหุ้น คาดกำไรไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 8,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้เสียประมาณ 5,500 ล้านบาท ลดลงจาก 7,300 ล้านบาท เมื่อไตรมาส 1/61

ขณะที่คาด Non – NII ลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เนื่องจากการบันทึกกำไรจากเงินลงทุนในไตรมาส 1/61 สูงถึง 3,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 1,500 – 2,000 ล้านบาท/ไตรมาส

ทั้งนี้เลือก BBL เป็น Top Pick ในกลุ่มธนาคาร ภายใต้ความน่าสนใจ เข้าสู่วัฏจักรการลงทุนใหม่ในช่วงครึ่งหลังปี 61 ซึ่ง BBL มีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ จากต้นทุนที่ต่ำ ขณะที่สภาพคล่องสูงกว่า และอัตราดอกเบี้ย เริ่มเข้าสู่ขาขึ้น คาดส่งผลดีต่อ NIM ของธนาคารขนาดใหญ่ รวมทั้งคาดได้รับผลกระทบน้อยจากการทำสงครามปรับลดค่าธรรมเนียม และความร่วมมือกับ AIA คาดช่วยหนุน Non-NII ของ BBL ในช่วงครึ่งหลังปี 61

ขณะที่คาดธนาคารอื่น คาด Non-NII ได้รับผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้จากธุรกิจประกัน ที่ปรับลดลง และ (5) NPL Formation เริ่มทรงตัวทำให้คาดตั้งสำรองหนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมา

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย BBL ที่ 222 บาทต่อหุ้น โดยคาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/61 เติบโต 4% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ 8.4 พันล้านบาท จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียม ทั้ง bancassurance และ mutual fund และจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 3/61 จากทิศทางสินเชื่อยังเติบโต ประกอบกับสามารถรักษา NIM ใกล้เคียงเดิม จากต้นทุนเงินทุนที่ลดลง หนุนรายได้ดอกเบี้ยรับเร่งตัว

ส่วนปัจจัยพื้นฐานเริ่มฟื้นตัว NPL ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ผนวกกับการลงทุนรอบใหญ่คาดจะเริ่มครึ่งหลังปี 61 หนุนโอกาสปล่อยสินเชื่อขยายตัว และภาพระยะกลาง ทิศทางดอกเบี้ยปรับขึ้นเอื้อประโยชน์ต่ออัตรากำไรกลุ่ม BANK

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คาด BBL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 ในวันที่ 19 ก.ค.2561 ทั้งนี้คาดว่าในไตรมาส 2/61 BBL จะมีกำไรสุทธิ 8,827 ล้านบาท โต 9.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่ลดลง 2% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน

Back to top button