แบงก์หนุน

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนหน้านี้สถานการณ์ของตลาดหุ้นอาจออกลูกติด ๆ ขัด ๆ ตลอดเวลาก็จริง แต่เมื่อหุ้นกลุ่มแบงก์ประกาศตัวเลขกำไรออกมาดีกว่าคาด บรรยากาศการลงทุนก็ดูดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา พร้อมกับปลุกความหวังของมนุษยชาติสายหุ้นขึ้นมาอีกครั้ง แรงซื้อก็ไหลบ่าเข้ามาท่วมตลาดหุ้นแบบไม่ทันตั้งตัว จนบรรดาแมงเม่าออกอาการระริกระรี้กันเป็นแถวแบบนี้..มันพะยะค่ะ

*เนื่องจากแรงซื้อที่เกิดขึ้นในหุ้นแบงก์ทำให้ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,650 จุดแบบชิว ๆ  ก่อนดัชนีจะปิดจ๊อบตรงระดับ 1,671.06 จุด บวกไป 24.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.73 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่แมงเม่าเริ่มเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างทะลุปรุโปร่ง และเริ่มทำตัวโหนกระแสกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าในจังหวะที่บรรยากาศเป็นใจเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ เพราะเรื่องทั้งหมดถูกถ่ายทอดด้วยภาพจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งให้รายละเอียดมากกว่าคำพูดที่ออกจากปากสาวสวยรวยเอ๊กอย่างเดี๊ยนหลายเท่า และไม่ต้องเสียเวลาพร่ำพรรณนาอะไรไปเรื่อยเปื่อย เพราะบรรดาผู้เล่นเริ่มหันไปมองยอดบนตรงบริเวณ 1,700 จุดกันอย่างพร้อมเพรียง เลยเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดนะจะบอกให้

*ย้อนกลับมาดูหุ้นแบงก์ทีเด็ด (ถูกเอ่ยถึงทุกครั้งที่อะไรหลายอย่างไม่ได้แย่ลง) กันบ้างดีกว่า หลังผ่านกระบวนการทดสอบแรงเทขายอย่างหนักหน่วง ก็น่าจะถึงเวลาดีดกลับเสียทีนั้น “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ KBANK ก่อนใครเพื่อน เพราะการเด้งขึ้นมาปิดที่ 210 บาท บวกไป 11.50 บาท หรือขึ้นไป 5.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.31 พันล้านบาท ทั้งที่ยอดเดิมอยู่แถว 230 บาท มันเป็นเรื่องที่น่าลุ้นดีเหลือเกิน เพราะเท่ากับเป็นการบังคับให้หุ้นต้องขยับขึ้นไปอีก..หากขึ้นไม่ไหว การขึ้นเที่ยวนี้จะถูกพูดว่ารีบาวด์ธรรมดา ๆ นะคะ

*เหมือนกับกรณีของ BBL ทุกคนต่างรู้ดีว่า หุ้นตัวนี้มีดีอย่างไร? และมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นทุกปีขนาดไหน? แต่กลับทำใจไม่ได้เมื่อเห็นหุ้นย่อตัวลงมาหนัก ๆ จึงพลาดโอกาสซื้อของดีราคาถูกเป็นประจำ ล่าสุด หุ้นยืนอยู่ที่ 197.50 บาท บวกไป 4.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.34 พันล้านบาท  “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะน่าเข้าตามน้ำ เพราะหุ้นมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ high เดิม ที่ระดับ 215 บาท (บุ๊กอยู่ที่ 212) นะซี

*เช่นเดียวกับกรณีของ SCB หากมองในมุมของกระแสเก็งกำไร “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะสาเหตุที่หุ้นร่วงหล่นระเนระนาดมันเกิดจากแอ็กซิเดนต์บางอย่าง แต่ดูเหมือนปัญหาดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคกีดขวาง บวกกับอาการของหุ้นลงหนักเด้งแรง มันหมายความว่า มีแรงซื้อระลอกใหม่เข้ามา เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 132 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.85 พันล้านบาท มันน่าสนใจไม่ใช่เล่นนะเนี่ย

*ส่วนในรายของ KKP ก็เป็นหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” เฝ้ามองพฤติกรรมการฟื้นตัวอย่างเป็นล่ำเป็นสันมาระยะหนึ่ง และเมื่อส่องกล้องลงไปดูใกล้ ๆ จะเห็นความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 73 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 764.68 ล้านบาท มันเป็นผลมาจากผู้เล่นเชื่อกันว่า พ้นจุดต่ำสุดก็เท่านั้นเอง

*ส่วนที่มีนัยสำคัญ และอยากให้จับตาดู “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ PTT ก่อนใครเพื่อนก็แล้วกัน ว่ากันว่าสถานการณ์ของหุ้นกำลังดีขึ้น เพราะตัวเลขกำไรไม่ได้แย่จนน่าใจหาย บวกกับนักเล่นหวนกลับเข้ามาไล่ราคาเต็มสูบ จึงกลายเป็นใบเบิกทางให้กับราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ระดับ 51.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.16 พันล้านบาทแบบนี้ มองเป้า 58 บาทเลยดีกว่านะคะ

*สำหรับรายที่สร้างความประหลาดใจมากที่สุดในเที่ยวนี้กลายเป็น ASIAN จู่ ๆ มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นแบบไม่ทันตั้งตัว มันเป็นเรื่องที่หาคำอธิบายยากเหมือนกัน  คิดดูแล้วกัน!..จากหุ้นที่พยายามตั้งลำแถวบริเวณ 5 บาทเป็นเวลาร่วมเดือน เพื่อรอจังหวะเทกตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 6 บาท เหตุไฉนหุ้นพุ่งพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ 7.30 บาท บวกไป 1.65 บาท หรือขึ้นไป 29.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 437.42 ล้านบาท เว่อร์เกินไปไหมเจ้าค่ะ

*แพตเทิร์นดังกล่าวตรงกันข้ามกับ ESSO พยายามตั้งลำแถวแนวรับ 12 บาทมาระยะหนึ่ง ล่าสุดดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 12.70 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 314.46 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่น่าตามไปดูมากกว่ารายข้างต้นที่เม้าท์ถึง เพราะวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 6 เท่า บวกกับแนวต้านถัดไปอยู่แถว 14 บาท จึงต้องไหลตามน้ำแล้วล่ะค่ะ