AOTลั่นสุวรรณภูมิเฟส2คืบกว่า30% พร้อมเปิดบริการปลายปี63 มั่นใจรองรับผู้โดยสาร60ล้านคน/ปี

AOT ลั่นสุวรรณภูมิเฟส 2 คืบกว่า 30% พร้อมเปิดบริการปลายปี 63 มั่นใจรองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคน/ปี จากเดิม 40 ล้านคน/ปี


นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) (ระยะ 2) ขณะนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ค.61) การก่อสร้างในภาพรวมมีความคืบหน้าเป็นลำดับกว่า 30.62% โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จทั้งโครงการในช่วงกลางปี 63 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในช่วงปลายปี 63

ทั้งนี้ ได้นำโครงการดังกล่าวเข้าร่วมเป็นโครงการต้นแบบตามโครงการของ Construction Sector Transparency Initiative (CoST) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีวัตถุประสงค์หลักในการช่วยยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสและการตรวจสอบโครงการก่อสร้างของภาครัฐ โดยใช้กลไกการเปิดเผยข้อมูลพื้นฐานในทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ในโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เพื่อนำมาใช้ยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสในโครงการก่อสร้างของภาครัฐในประเทศไทย ซึ่งมีความคืบหน้าในการดำเนินงาน ดังนี้

(1) งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้าง และงานระบบหลัก) (CC1/1) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เป็นผู้รับจ้าง เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือน ก.ย.59 ระยะเวลาดำเนินการ 780 วัน ขณะนี้งานมีความก้าวหน้างานแล้วกว่า 83.01% คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.61

(2) งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2- 4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) (CC1/2) PCS Joint Venture ประกอบด้วย บมจ.เพาเวอร์ไลน์เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) และบริษัท ไชน่าสเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.พ.61 ระยะเวลาดำเนินการ 660 วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเสาด้านทิศตะวันตกและตะวันออกของอาคาร Midfield Satellite 1 และกำแพงคอนกรีตภายในอุโมงค์ด้านทิศใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.62

(3) งานจ้างก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (CC2/1) อยู่ระหว่างการจัดทำร่างขอบเขตงาน (Term of Reference : TOR) ซึ่งจะสามารถประกาศประกวดราคาได้ในเดือน ต.ค.61 และได้ผู้รับจ้างภายในเดือน ม.ค.62 ระยะเวลาดำเนินงาน 18 เดือน คาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.63

(4) งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (CC2/2) อยู่ระหว่างการจัดทำ TOR โดยคาดว่าจะสามารถประกาศประกวดราคาได้ในเดือน พ.ย.61 และได้ผู้รับจ้างภายในเดือน ก.พ.62 ระยะเวลาดำเนินงาน 29 เดือน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.64

(5) งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) กิจการค้าร่วมเอสจี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ เป็นผู้รับจ้าง เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่เดือน ก.ย.59 ระยะเวลาดำเนินการ 990 วัน ขณะนี้มีความก้าวหน้างานแล้วกว่า 38.85% คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.62

(6) งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) (CC4) นิติบุคคลร่วมทำงานไออาร์ทีวีเป็นผู้รับจ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนงานก่อสร้างและสำรวจออกแบบ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.63

(7) งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาออก) (CC5) นิติบุคคลร่วมทำงานล็อกซ์เล่ย์ – แอลพีเอส ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนการบริหารโครงการออกแบบและทดสอบที่จุดผลิต คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.63

(8) งานซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า (BHS) และระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (EDS) (ขาเข้า) (CC6) อยู่ระหว่างการจัดทำ TOR ซึ่งจะสามารถประกาศประกวดราคาได้ภายในเดือน ส.ค.61 และได้ผู้รับจ้างภายในเดือน พ.ย.61 ระยะเวลาดำเนินงาน 18 เดือน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.63

ทั้งนี้ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จทั้งโครงการในช่วงกลางปี 63 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปลายปี 63 ซึ่งจะทำให้ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากเดิม 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปี

ขณะเดียวกันบริษัทมุ่งมั่นเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศในอนาคต โดยยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และตรวจสอบได้ ควบคู่กับการสร้างผลประกอบการที่ดี เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถสร้างคุณค่าให้สังคม และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

Back to top button