BTS ถือโอกาสหยุดยาว เร่งสะสางระบบขัดข้อง!!

BTS ถือโอกาสหยุดยาว เร่งสะสางระบบขัดข้อง!!


ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการและกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ มีปัญหารถไฟฟ้าขัดข้อง เนื่องจากระบบอาณัติสัญญาณ ในวันที่ 25-27 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการหลายขั้นตอน โดยบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ชิกแนล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ส่งวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาดูแลแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด เริ่มจากการปรับเปลี่ยนระบบวิทยุสื่อสาร และได้ทำการย้ายคลื่นจาก 2400 ไปเป็น 2485-2490 MHz

รวมทั้งติดตั้งตัวกรองคลื่นสัญญาณ (band pass filter) ที่มีความสามารถในการรับสัญญาณเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นที่ขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 52 ขบวน จนขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เพิ่มการติดตั้งตัวกรองสัญญาณ (band pass filter) ที่สถานีรถไฟฟ้าทั้ง 35 สถานี และเสาสัญญาณตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้งให้ครบทุกสถานี เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารให้มากที่สุด

โดย ดร.อาณัติ กล่าวว่า หลังจากที่เราได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์รวมทั้งการปรับปรุงระบบซอฟท์แวร์ แล้วพบว่าปัญหารถไฟฟ้าเกิดอาการกระชากหรือกระตุกหายไปจนเหลือไม่ถึง 5% และการที่เจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้าจะต้องขับด้วยระบบแมนนวลซึ่งทำให้ขบวนรถเคลื่อนที่ล่าช้านั้นเกือบไม่มีเลย ซึ่งการขัดข้องนั้นน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้โดยสารยอมรับได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ บอมบาดิเอร์ซึ่งเป็นบริษัทฯ ที่ดำเนินการในเรื่องระบบอาณัติสัญญาณให้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส มีแผนดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์และปรับแต่งระบบเพื่อให้มั่นใจว่าระบบวิทยุสื่อสารที่ใช้ในการควบคุมการเดินรถไฟฟ้านั้นมีความเสถียรมากที่สุด เพื่อรองรับการให้บริการเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ทั้ง 8 สถานี ได้แก่ สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีปากน้ำ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวมระยะทาง 11 กิโลเมตรด้วย ซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงเดือนธันวาคม 2561 นี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำการจัดเก็บสถิติการเดินรถทุกขบวนที่วิ่งให้บริการ เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และนำไปแก้ไขในเวลากลางคืนหลังจากที่ปิดให้บริการแล้ว เพื่อปรับแต่งระบบให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งมีเวลาน้อยมากในการแก้ไขปัญหา บริษัทฯ จึงขอโอกาสในช่วงวันหยุดยาว ตั้งแต่วันที่ 27-30 กรกฎาคมนี้ ในการปรับปรุงระบบซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่เกิดผลกระทบกับผู้ใช้บริการน้อยที่สุด

โดยหากมีข้อขัดข้องเกิดขึ้น และจะมีการปรับแต่งระบบให้มีความเสถียรสูงสุดในช่วงเวลาหลังจากนี้จนถึงปลายปีก่อนการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสมุทรปราการ ท้ายที่สุดนี้ บริษัทฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวก และจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขัดข้อง หรือหากขัดข้องก็จะรีบดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบกับผู้ใช้บริการ

ด้าน นายเกรกอรี่ อองจาลแบร์ท รองประธาน ระบบอาณัติสัญญาณควบคุมรถไฟประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้อำนวยการจัดการ บจ.บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น ชิกแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เริ่มเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ BTS เมื่อพ.ศ. 2550 สำหรับการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ นั้นมีแนวทางในการดำเนินการ 2 วิธี คือ ปิดการให้บริการและปรับปรุงระบบซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กับระบบการให้บริการที่มีผู้โดยสารจำนวนน้อย อย่างที่สองคือ เปิดให้บริการตามปกติและปรับปรุงระบบในเวลากลางคืนและช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับโครงการที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก บริษัทฯ ได้ใช้วิธีการที่สอง เพื่อให้มีผลกระทบกับผู้โดยสารน้อยที่สุด

ทั้งนี้ การปรับปรุงระบบของรถไฟฟ้าบีทีเอสขณะนี้อยู่ในขั้นตอนปรับปรุงระบบส่งข้อมูล (DTS) ซึ่งเป็นเครือข่ายหลักของระบบสัญญาณ ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อระบบวิทยุ รถไฟ และรางสัญญาณเข้าด้วยกัน เพื่อให้อุปกรณ์ทั้งหมดสามารถสื่อสารกันได้อย่างชัดเจน โดยไม่มีสัญญาณอื่นใดมารบกวน ซึ่งระบบส่งข้อมูล (DTS) ได้ถูกนำมาใช้กันในหลายประเทศ นับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยของระบบสูง (Cyber-security) และมีการป้องกันการรบกวนจากระบบอื่นๆ

โดยระบบใหม่นี้จะทำให้การบริการมีความเสถียรตลอดทั้งสายปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้ว และส่วนต่อขยายที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งนี้หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงระบบแล้ว บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าปัญหาขัดข้องจะน้อยลง รวมทั้งการกระชาก กระตุกที่เคยเกิดขึ้นก็จะน้อยลงหรือไม่มีเลย

นอกจากนี้ นายเกรกอรี่ กล่าวอีกว่า “บริษัทฯ ได้เลือกใช้ช่องสัญญาณวิทยุที่เหมาะสมที่สุดใช้ระบบ Bombardier CBTC ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การบริการที่ล่าช้านั้น ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งในระหว่างการปรับปรุงระบบก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ หรือแม้กระทั่งหลังจากทำการทดสอบระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาขัดข้องได้บ้าง

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ จะพยายามดำเนินการเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการให้มากที่สุด และหากเกิดปัญหาต่างๆขึ้น เราจะเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอสสามารถกลับมาให้บริการได้อย่างปกติดังเดิม”

Back to top button