กรุงศรี ปลื้ม FIF มีเงินลงทุนสูงสุดในกลุ่มตอกย้ำเป็นผู้นำในการเลือกกองทุนหลัก
บลจ.กรุงศรี ปลื้มกองทุนFIFภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทมียอดเงินลงทุนใหม่ในกลุ่มกองทุน FIFสูงเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการคัดสรรกองทุนหลักที่หลากหลายนโยบายการลงทุนและมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน
นายอลัน แคม รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ(FIF) ภายใต้การบริการจัดการของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ส่งผลให้บริษัทมีทรัพย์สินสุทธิของกองทุน FIF ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมียอดเงินลงทุนเพิ่มสุทธิในกลุ่มกองทุนต่างประเทศ สูงเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม มูลค่ากว่า 5,703 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วน 26.71% ของอุตสาหกรรม (ที่มา :Morningstar วันที่ 30 เม.ย. 58) ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะออกกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศเพิ่มอีกโดยเฉพาะในส่วนของตลาดเอเชีย เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจและเป็นการเพิ่มทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี”
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการเสนอขายกองทุน FIF มาจากมุมมองการลงทุนของทีมผู้จัดการกองทุน ที่มองเห็นศักยภาพของการทำกำไรที่โดดเด่นของบางกลุ่มอุตสาหกรรม หรือสินทรัพย์ในบางภูมิภาค ประเมินได้ว่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการจัดสรรเงินลงทุน เราจึงเป็นหนึ่งในผู้นำในการเปิดขาย FIF กองทุนใหม่ๆ ในตลาด และทีมผู้จัดการกองทุนยังให้ความสำคัญกับการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อคัดสรรกองทุนหลักที่มีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ทำให้กองทุนของเรามีผลการดำเนินงานที่ดี เช่น กองทุนKF-HEALTHD ที่มีนโยบายจ่ายปันผลก็สามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนได้ 2 ครั้งแล้ว รวม 1.15 บาท* จากวันจัดตั้งกองทุนในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา นอกจากนี้เรายังมี FIF ที่ลงทุนในกองทุนหลักของบริษัทจัดการลงทุนระดับโลกหลายแห่ง เช่น JPMorgan, Allianz Global Investors, Franklin Templeton Eastspring, First Stage Investments, Schroder เป็นต้น
ล่าสุดกองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียนอินคัมเฮดจ์ (KF-AINCOME) ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก Schroder Asian Income Fund สามารถระดมเงินลงทุนได้กว่า 2,370 ล้านบาทในช่วงการเสนอขายครั้งแรก เมื่อรวมกับกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลอินคัม (KF-INCOME) ที่ลงทุนในกองทุนหลัก JP Morgan Global Income ซึ่งเราเปิดขายเป็นรายแรกมาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าเรามี AUM ในกองทุนที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการรับกระเสเงินสดสม่ำเสมอมากกว่า 8,300 ล้านบาท (ที่มา : บลจ.กรุงศรี ณ วันที่ 29 พ.ค. 58) แสดงว่าเราคาดการณ์ความต้องการของผู้ลงทุนได้ถูกต้อง กองทุนจึงได้รับการตอบรับที่ดีมาก หรืออย่าง กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควีตี้เฮดจ์ปันผล (KF-HCHINAD) ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก First State Greater China Growth Fund ก็สามารถระดมเงินลงทุนได้เต็มมูลค่าโครงการภายในระยะเวลา 2 วันแรกที่เปิดเสนอขาย
นายอลัน แคม กล่าวเพิ่มเติมว่า เราแนะนำเสมอว่าการจัดสรรเงินลงทุน และการกระจายความเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้ผู้ลงทุนมองเห็นว่าตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน และตลาดตราสารหนี้ไทยให้ผลตอบแทนลดลง ดังนั้น กองทุน FIF จึงเป็นทางเลือกที่ดี อีกทั้ง การที่กลุ่มกองทุน FIF ของบริษัทมียอดเงินลงทุนเพิ่มสุทธิกว่า 5,703 ล้านบาท ก็สอดคล้องกับความเชื่อของเราว่าลูกค้ามีความเข้าใจในการกระจายความเสี่ยง ตลอดจนตระหนักถึงโอกาสการลงทุนในต่างประเทศและมีความรู้เรื่องการลงทุนมากขึ้น เลยให้ความสนใจกับการจัดสรรเงินไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศภายใต้การบริหารจัดการของเรามากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีและแสดงให้เห็นว่าผู้ลงทุนมีการวางแผนการลงทุนที่ดี มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากทุกสภาวะเศรษฐกิจ