สังคมข่าวหุ้น
*หลังหยุดยาวมาหลายวัน นักลงทุนอาจยังไม่มั่นใจว่าการเข้ามาของนักลงทุนต่างประเทศครั้งนี้จะมาจริงหรือเปล่า บอกได้เลยตอนนี้ยังแค่น้ำจิ้มเท่านั้น การลงทุนโดยตรง หรือ FDI ยังไม่เกิด ดูได้ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เพราะกลุ่มนี้เป็นการลงทุนโดยตรง ยังไม่มา เพราะหลายบริษัทติดเงื่อนไขที่ว่าต้องลงทุนในประเทศที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงมองว่าบิ๊กตู่ จะต้องรีบจัดเลือกตั้ง
เกียรติก้อง ว่องไวยากร
*ต่างชาติรอเลือกตั้งชัดเจน
*หลังหยุดยาวมาหลายวัน นักลงทุนอาจยังไม่มั่นใจว่าการเข้ามาของนักลงทุนต่างประเทศครั้งนี้จะมาจริงหรือเปล่า บอกได้เลยตอนนี้ยังแค่น้ำจิ้มเท่านั้น การลงทุนโดยตรง หรือ FDI ยังไม่เกิด ดูได้ในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เพราะกลุ่มนี้เป็นการลงทุนโดยตรง ยังไม่มา เพราะหลายบริษัทติดเงื่อนไขที่ว่าต้องลงทุนในประเทศที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงมองว่าบิ๊กตู่ จะต้องรีบจัดเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นต้นปีหน้า อุตสาหกรรมและการจ้างงานถึงจะฟื้นตัว ส่วนตลาดหุ้นไทยตอนนี้ก็แค่เก็งกำไรชั่วคราวเท่านั้น วานนี้ดัชนี 1,700 จุดยังยืนอยู่ได้แบบเฉียดฉิว
*กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม น่าสนใจ หลังเลือกตั้งพุ่งแรงแน่นอน ทั้ง AMATA ของเฮีย วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อมตะ คอร์ปอเรชั่น และ WHA ที่บริหารงานโดย จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ย่อมได้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ โดยเฉพาะโครงการพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่รองนายกฯ สมคิด หมายมั่นปั้นมือให้เป็นเรือธง ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามา ราคาหุ้น 2 ตัวนี้ก็ถือว่าไม่แพง ราคาเป้าหมาย AMATA ที่ 26 บาท WHA 4.50 บาท ทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ไม่น่าผิดหวัง
*ใกล้ถึงเทศกาลปันผลงวดครึ่งปี หุ้นหลายตัวให้ผลตอบแทนไม่น้อย ตามสูตรแล้วต้องดักเก็บก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ผลตอบแทนจะมากกว่า 4% มีให้เลือกมากกว่า 10 ตัว ราว ๆ กลางเดือนสิงหาคมนี้ก็จะทยอยประกาศปันผลและจ่ายเงินปันผลในปลายเดือนนี้ ถึงต้นเดือนหน้า ที่เป็นกลุ่มแบงก์ ก็มี 2 ตัว TCAP ของเฮียศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธนชาต และ KKP ของเฮียอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่จ่ายปันผลกันอย่างเต็มไม้เต็มมือ ผลประกอบการ Q2 ก็ออกมาดี จน TCAP ต้องประกาศซื้อหุ้นคืน ส่วนกลุ่มอสังหาฯ ก็มีให้เลือก LH, QH ของเจ้าสัว อนันต์ อัศวโภคิน และ SPALI ใครที่ยังไม่รู้จะลงทุนหุ้นตัวไหนดีก็ลองดู
*มาแล้วหุ้นกู้ร้อน ๆ ธิดา แก้วบุตตา บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD เตรียมเปิดให้นักลงทุนขาใหญ่ จองซื้อวันที่ 3 ส.ค. และ 6-7 ส.ค. ผ่านกสิกรไทย ซีไอเอ็มบีไทย และเอเชียพลัส ชุดแรกไม่เกิน 3 พันล้านบาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ยเกือบ 4% ชุด 2 ไม่เกิน 2 พันล้านบาท อายุ 4 ปี ดอกเบี้ย 4.15% ต่อปี ราคาหุ้นวานนี้ก็ขยับขึ้นมาพร้อมกับ MTC ตามแรงเก็งกำไรผลประกอบการ Q2
*หุ้นรถไฟฟ้าน่าสนใจ BTS ของเฮียคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่มีส่วนต่อขยายไปทั่งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผ่านไปตรงไหนโครงการก็ผุดขึ้นบริเวณรอบรถไฟฟ้า สร้างความเจริญให้กับพื้นที่บริเวณนั้น รายได้นับวันยิ่งเพิ่มขึ้น ตามปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่ม จนต้องสั่งซื้อโบกี้ใหม่เข้ามา นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรปีนี้ของบีทีเอสจะโต 17% ให้ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท ส่วน BEM ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท
*เงียบไปตั้งนาน ในที่สุดภาษีกองทุนตราสารหนี้ก็สะเด็ดน้ำเสียที ตอนนี้เหลือแค่เฮียอภิศักดิ์ ขุนคลังนำเข้า ครม.เท่านั้น บอกได้เลยงานนี้ผลกระทบค่อนข้างจะกว้างอยู่ ทั้งผู้ออกตราสารหนี้ และกองทุนรวมเอง ตลาดคงปั่นป่วนกันบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าหากมีการเก็บกันที่ 15% ผลตอบแทนของกองทุนก็จะลดลง กรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้ไม่เพิ่มผลตอบแทนชดเชยให้ นักลงทุนอาจขายทิ้งหน่วยลงทุน กระทบทั้งผู้ออกตราสารหนี้และกองทุนรวม
*วานนี้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบแต่งตั้งนายลวรณ แสงสนิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.คนใหม่ แทนนายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ที่จะเกษียณอายุในปีนี้ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 และยังแต่งตั้งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังอีก 2 ตำแหน่ง ได้แก่ นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนางสาววิไล ตันตินันท์ธนา จากกรมสรรพสามิต
*ส่วน บลจ.ไทยพาณิชย์ แต่งตั้งนายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ผู้บริหารสายการลงทุน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทนนายสมิทธ์ พนมยงค์ ที่ได้ลาออก มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 สำหรับ “ณรงค์ศักดิ์” ทำงานในการบริหารจัดการลงทุนมากว่า 20 ปี เข้ามาร่วมงานกับ บลจ.ไทยพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2554 เคยทำงานกับ กบข.และรองประธานลงทุนของเอไอเอ