SNC มั่นใจกำไรปีนี้โตต่อ แม้รายได้ Q3/61 ชะลอตัวหลังยอดขายหดตัว

นายสมชาย งามกิจเจริญลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNC เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานปี 2561 จะมีกำไรสุทธิเติบโตกว่าปีก่อนที่ทำได้ 401.31 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างภายใน

อีกทั้งในช่วงไตรมาส 3/61 จะมีการควบรวมบริษัทย่อยเข้าด้วยกัน คือ SNC Cooling Supply และ Meisou SNC Precision ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการบริหาร และมีอำนาจต่อรองการซื้อวัตถุดิบในการผลิตมากขึ้น ขณะที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองจำนวน 3.43 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวลดลงเดือนละ 1 ล้านบาท

“หลังจากที่เราใช้ระยะเวลา 2 ปี เพื่อที่จะจัดระบบโครงสร้างภายในใหม่ ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้น และถือว่าเป็น New normal ของบริษัทฯ และในปีต่อ ๆ ไปจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นไปอีก ซึ่งในระดับที่ปีนี้คาดว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 6% ก็ถือว่าเป็นระดับที่สูงกว่าในอดีตที่เคยทำได้แล้ว” นายสมชาย กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่ารายได้จากการขายและบริการปีนี้จะลดลงราว 7% จากปีก่อน 7,590.32 ล้านบาท โดยเป็นผลกระทบจากตะวันออกกลางที่ได้มีการปรับมาตรฐานเครื่องปรับอากาศใหม่ ส่งผลให้ต้องมีการปรับมาตรฐานการผลิตใหม่ตามด้วย โดยปัจจุบันได้ผ่านการทดสอบแล้ว และอยู่ระหว่างออกใบรับรองเครื่องปรับอากาศ โดยคาดว่าจะกลับมาเริ่มขายได้อีกครั้งในช่วงไตรมาส 4/61

ขณะที่ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/61 คาดว่ายอดขายจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/61 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจและยอดขายในตะวันออกกลางที่หายไป แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4/61 โดยบริษัทฯจะบุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้น โดยเน้นในกลุ่ม NON air condition แต่ยังเน้นจุดแข็งเกี่ยวกับเครื่องทำความร้อนความเย็นและอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้าอื่นเพิ่มเติม

ในส่วนของชิ้นส่วนยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตตามอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่คาดว่าจะมียอดผลิตรถยนต์เพิ่มเป็น 2.1 ล้านคัน จากปีก่อนที่ 2 ล้านคัน นอกจากนี้บริษัทฯยังจะเน้นขยายการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์มากขึ้นด้วย โดยที่ผ่านมาบริษัทฯเริ่มส่งออกไปยังประเทศจีน และสหรัฐฯ แล้ว

“ในปีนี้ยอดขายเราจะลดลง แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเราได้มีการปรับตัวเองมากขึ้น ด้วยการขายสินค้าชนิดใหม่ๆ แต่ยังอยู่ในกลุ่มที่บริษัทฯมีความชำนาญคือเครื่องทำความเย็น และความร้อน ขณะที่กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เองนอกจากจะได้รับผลดีจากการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศแล้ว เราก็ได้ขยายตลาดออกไปขายยังต่างประเทศมากขึ้นด้วย” นายสมชาย กล่าว