จังหวะเก็บ JAS ก่อนเกิด 2 เหตุการณ์สำคัญ ขายหุ้นซื้อคืน-ขึ้น XW JAS-W3

บล.ดีบีเอส แนะเป็นจังหวะเก็บ JAS ก่อนเกิด 2 เหตุการณ์สำคัญ ใกล้ XW JAS-W3 อยู่ในภาวะที่มีกำไร (in the money) มาก และประเด็นขายหุ้นที่ซื้อคืน ชูเป้าหมาย 6.80-7.69 บาท/หุ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  หรือ JAS ณ เวลา 11.16 น.อยู่ที่ 6.05 บาท ลบ 0.05 หรือ 0.82% มูลค่าการซื้อขาย 420.55 ล้านบาท โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 6.10 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 6.10 บาท และมีการย่อตัวแตะระดับต่ำสุดที่ 6.00 บาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์(9 มิ.ย.)ว่า แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” JAS ราคาเป้าหมาย 6.80-7.69 บาท/หุ้น โดยหุ้นกำลังจะมีสองเหตุการณ์สำคัญที่ใกล้จะเกิดขึ้น

ประเด็นแรกใกล้กำหนดการจะขายหุ้นที่ซื้อคืนของ JAS จำนวน 142.7 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 2% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท เข้ามายังตลาดฯ ระหว่างวันที่ 19 มิ.ย.-23 มิ.ย.58 ด้วยข้อกำหนดราคาขายคือ ไม่น้อยกว่าราคาปิดเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้าวันที่ 19 มิ.ย.58 หักด้วย 15% ของราคาปิดเฉลี่ย

สำหรับผลกระทบมีแนวโน้มว่าบริษัทจะไม่ขายหุ้นออกมาในตลาดฯ เพราะ 1) ต้นทุนเฉลี่ยในการซื้อหุ้นคืนเป็นประมาณ 6.94 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน 14% และ 2) ครั้งก่อนที่บริษัทซื้อหุ้นคืนในช่วงปี 54-56 ที่ 106.9 ล้านหุ้น แม้มีนโยบายขายหุ้นที่ซื้อคืนในตลาดฯ ในช่วงต้นปี 56 แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่ได้ขาย และมีการลดทุนจดทะเบียนตามมา ส่วนราคาที่จะขายออกมา เพื่อดูแนวทาง หากสมมุติใช้ราคาปิดวานนี้เป็นราคาเฉลี่ย 5 วันทำการ เมื่อหักด้วยส่วนลด 15% ก็แสดงว่าจะขายไม่ต่ำกว่าราคาที่ 5.19 บาท

อีกทั้งใกล้ XW JAS-W3 อยู่ในภาวะที่มีกำไร (in the money) มาก ด้วยเงื่อนไขการจัดสรรคือ 2.04 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ ไม่คิดมูลค่า อายุ 5 ปี ราคาใช้สิทธิ์ 4.30 บาท ขึ้น XW 25 มิ.ย.58 จากการประเมินมูลค่าพบว่าเป็น 1.659 บาท ตามวิธี Black-Scholes Model หรือคิดเป็นกำไรแฝงต่อ 1 หุ้น JAS ที่ 0.8132 บาท หรือคิดเป็น 13% จากราคาหุ้นปัจจุบัน เราจึงคาดว่าก่อนวัน XW จะมีการเข้ามาเก็งกำไร JAS เพื่อให้ได้รับวอร์แรนท์ อีกทั้งมีแนวโน้มจะแปลงวอร์แรนท์เป็นหุ้นสามัญได้เร็ว เพราะราคาใช้สิทธิ์ต่ำและการแปลงมาเป็นหุ้นสามัญจะได้รับเงินปันผล

โดยคาดว่าเมื่อใกล้วัน XW จะมีการเก็งกำไร JAS กันอย่างคึกคัก กลายเป็นประเด็นความกังวลเรื่องแรงขายทำกำไร (Selling Pressure)จากการขายหุ้นซื้อคืนมาในตลาดฯจะไม่มีน้ำหนัก แม้กำหนดการจะใกล้กับวัน XW ก็ตาม

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ 1) ความคืบหน้าในการประมูล 4G และการหาพันธมิตรใหม่ในแถบเอเซีย 2) ความกังวลว่าเมื่อทำธุรกิจ 4G แล้วจะขาดทุน และไปบดบังกำไรที่เคยได้จากธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง แต่บริษัทยืนยันว่าจะทำที่ขนาดธุรกิจไม่ใหญ่และสามารถผสานเทคโนโลยี่-กำลังคนที่มีอยู่กับ 4G ได้เป็นอย่างดี

และ 3) การแข่งขันในธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจาก AIS เหมือนเป็นข่าวลบ แต่โครงข่ายของ AIS ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศต่างจาก TTTB ของ JAS นั่นคือยังต้องใช้เวลาอีกนาน อีกทั้งขนาดตลาดของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงยังขยายได้อีก และอัตราผู้ใช้ (penetration rate) สำหรับไทยต่ำ เพียง 20% 

Back to top button