ดาวโจนส์ปิดวานนี้ขยับลง ข้อมูลศก.แกร่งหนุนแนวโน้มเฟดขึ้นดบ.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งมีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้นปิดในแดนบวก เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (9 มิ.ย.) ที่ 17,764.04 จุด ลดลง 2.51 จุด หรือ -0.01%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,013.87 จุด ลดลง 7.76 จุด หรือ -0.15% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,080.15 จุด หรือ 0.04% เพิ่มขึ้น 0.87 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2000 จากระดับ 5.1 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค.

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนยอดค้าส่งพุ่งขึ้น 1.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกันสถานการณ์หนี้สินของกรีซ โดยข่าวล่าสุดระบุว่า กรีซได้ยื่นข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจต่อเจ้าหนี้เมื่อวานนี้ เพื่อแลกกับการขอรับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป แต่เจ้าหน้าที่หลายรายของสหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าวของกรีซ โดยระบุว่า ข้อเสนอเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ EU มอบเงินช่วยเหลืองวดต่อไป

หุ้นเอชเอสบีซีปรับตัวลง 0.7% หลังจากทางบริษัทประกาศว่าจะขายธุรกิจในตุรกีและบราซิล พร้อมทั้งลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงราว 2.90 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดรายจ่าย และตั้งเป้าที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนต่อหุ้นอยู่ในระดับสูงกว่า 10% ภายในปี 2560

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1% ส่วนหุ้นกลุ่มประกันดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้น AIG ปรับขึ้น 0.8% และหุ้นลินคอล์น เนชันแนล ขยับขึ้น 0.8% เช่นกัน

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

Back to top button