TTA ส่งซิกผลงานครึ่งหลังปี 61 โตต่อเนื่อง รับธุรกิจขนส่งฟื้นตัว
TTA ส่งซิกผลงานครึ่งหลังปี 61 โตต่อเนื่อง รับธุรกิจขนส่งฟื้นตัว
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 2/2561 เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 399.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 จากไตรมาสที่ผ่านมา และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นส่วนของบริษัทอยู่ที่ 94.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1,050 จากไตรมาสก่อน
สำหรับรายได้รวมในไตรมาสที่ 2/2561 อยู่ที่ 3,394.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อน โดยมาจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร และกลุ่มการลงทุนคิดเป็นร้อยละ 42 ร้อยละ 20ร้อยละ 21 และร้อยละ 17 ของรายได้รวมทั้งหมดตามลำดับ ในขณะที่มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 755.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ร้อยละ 23 จากไตรมาสก่อน
อย่างไรก็ตาม TTA ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของฐานะการเงินมั่นคง ด้วยเงินสดภายใต้การบริหาร อยู่ในระดับสูงถึง 7.4 พันล้านบาทและมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (net IBD/E) ระดับต่ำที่ 0.12 เท่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561
ด้านนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA เปิดเผยว่า ธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีสัญญาณที่ดีไปตลอดช่วงปี 2561 เนื่องจากดัชนีบอลติค (BDI) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นปี 2560 ที่ 953 จุดมาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 1,260 จุด ในไตรมาสที่ 2/2561 ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเติบโตของกองเรือทั่วโลกที่จำกัดและปริมาณการค้าสินค้าแห้งเทกองของตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการสินแร่เหล็ก และสินค้าเทกองประเภทอื่นๆ (Minor Bulk)
โดย TTA ได้ซื้อเรือมือสองเพิ่มจำนวน 2 ลำในช่วงครึ่งปีแรก เพราะเป็นรอบวัฏจักรขาขึ้นของธุรกิจ เห็นได้จากความต้องการสินค้าแห้งเทกองที่เพิ่มขึ้น และอัตราการเติบโตของกองเรืออยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยที่ 55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2560 เป็นค่าเฉลี่ยที่ 75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 2/2561 อย่างไรก็ตามแนวโน้มราคาน้ำมันยังคงผันผวน จากการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและสหรัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แม้ว่าเมอร์เมด มาริไทม์ ซึ่งดำเนินธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะมีมูลค่าสัญญาให้บริการที่รอส่งมอบ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2561 ประมาณ 165 ล้านเหรียญก็ตาม แต่จำเป็นต้องหามาตรการเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้กลับมามีกำไรมากขึ้นในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 เกษตรกรในประเทศเวียดนามได้รับผลกระทบจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ดังนั้นในช่วงนี้เกษตรกรจึงให้ความสำคัญกับการลดค่าใช้จ่ายมากกว่าการเพิ่มผลผลิตเป็นการชั่วคราว ทำให้มีความต้องการใช้ปุ๋ยเชิงเดี่ยว(single fertilizer)เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์ เพื่อการเกษตรในประเทศเวียดนามรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และยังสามารถรักษาระดับการเติบโตของธุรกิจปุ๋ยและพื้นที่โรงงานให้เช่าได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ กลุ่มการลงทุนอื่น TTA ได้จัดตั้ง บริษัท สยามทาโก้ จำกัด (STC) เป็น บริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นร้อยละ 70 เพื่อลงทุน ในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารทาโก เบลล์ (Taco Bell) ในประเทศไทย นอกจากนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 TTA ยังได้เข้าลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (AIM) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบก่อสร้างและให้บริการครบวงจรทางด้านการบริหารจัดการน้ำในภูมิภาคเอเชียที่มีประสบการณ์สูง เพื่อเพิ่มจุดแข็งในธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำในประเทศไทย ทั้งนี้ TTA คาดว่ารายได้จากกลุ่มธุรกิจหลักจะเติบโตขึ้นอีกในช่วงครึ่งหลังของปี 2561