สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 17 ส.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันศุกร์ (17 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนในสัปดาห์หน้านั้น จะสามารถคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า และจะปูทางไปสู่การจัดประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเดือนพ.ย.นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,669.32 จุด เพิ่มขึ้น 110.59 จุด หรือ +0.43% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,816.33 จุด เพิ่มขึ้น 9.81 จุด หรือ +0.13% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,850.13 จุด เพิ่มขึ้น 9.44 จุด หรือ +0.33%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤตค่าเงินลีราของตุรกีจะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 381.07 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,210.55 จุด ลดลง 26.62 จุด หรือ -0.22% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,344.93 จุด ลดลง 4.09 จุด หรือ -0.08% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,558.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.03%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ส.ค.) หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตค่าเงินตุรกียังคงสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันนี้ที่ 7,558.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.03%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนและสหรัฐจะจัดให้มีการเจรจารอบใหม่ในเดือนนี้เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 2 วันทำการนั้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง แต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1184.20  ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำร่วงลง 2.85% ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์ที่หนักสุดในรอบกว่า 1 ปี

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 8.2 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 14.631 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 7.20 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 777.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 877.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (17 ส.ค.) หลังจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 1 ปี ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของยูโรโซนพุ่งขึ้นเหนือระดับเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1442 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1365 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ1.2746 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2708 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7317 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7259 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.60 เยน จากระดับ 110.88 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9952 ฟรังก์ จากระดับ 0.9964 ฟรังก์

Back to top button