“ภากร”ย้ำหุ้นไทยน่าลงทุน ชูP/Eต่ำสุดในรอบ4ปี ตั้งเป้าคุมโรบอทเทรดรักษาเสถียรภาพ
"ภากร" ย้ำหุ้นไทยน่าลงทุน ชู P/E ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ตั้งเป้าคุมโรบอทเทรดรักษาเสถียรภาพ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ภาพการรวมการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มที่ดี สอดคล้องกับทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในภูมิภาค ซึ่งหุ้นไทยสิ้นเดือนกรกฎาคมถือว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในภูมิภาค
โดยภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2 ปี 2561 เติบโตถึง 4.8% สะท้อนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ จึงเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้มีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังคึกคักขึ้น
ขณะที่ค่า P/E ปัจจุบันของดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งอยู่ที่ 15 เท่า เป็นระดับที่ต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในอาเซียน จึงเป็นแรงจูงใจให้ผู้ลงทุนสนใจเข้ามาลงทุน ประกอบกับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย
“ถึงแม้ว่านับตั้งแต่ต้นปีผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย แต่สัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดมาอยู่ที่ประมาณ 36% จากเดิมอยู่ที่เพียง 25% จึงมั่นใจว่าหุ้นไทยยังคงมีความดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทนของหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 3% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.79%” นายภากร กล่าว
สำหรับการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในครึ่งปีหลังจะคึกคักกว่าครึ่งปีแรก โดยคาดว่ามูลค่าระดมทุนจะยังอยู่ที่ระดับ 250,000 ล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้จะมีบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เข้าระดมทุนหลายบจ. ซึ่งจะหนุนให้มูลค่าระดมทุน IPO ใกล้เคียงกับปีก่อนๆ
นอกจากนี้ นายภากร ยังกล่าวถึงประเด็นของการซื้อขายผ่านโปรแกรมอัตโนมัติ (Robot Trading) ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นส่งผลให้ราคาหุ้นหลายๆ บริษัทมีความผันผวน ว่า ขณะนี้ตลท.อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางที่จะควบคุมการซื้อขายผ่านโรบอทเทรด โดยตั้งเป้าจะควบคุมให้มีการซื้อขายผ่านระบบดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการศึกษา และพิจารณาหลักเกณฑ์ให้เหมาะสมเพื่อให้ตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพ