7 เขื่อนวิกฤตหนักน้ำทะลักเกิน 80% พร้อมเฝ้าระวัง 12 จังหวัดเสี่ยงอุทกภัยหลังฝนตกต่อเนื่อง

7 เขื่อนวิกฤตหนักน้ำทะลักเกิน 80% พร้อมเฝ้าระวัง 12 จังหวัดเสี่ยงอุทกภัยหลังฝนตกต่อเนื่อง


ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำในเขื่อนทั่วประเทศ ประจำวันที่ 23 ส.ค.2561 พบว่า ขื่อนที่ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์วิกฤตมี 7 แห่ง ได้แก่ เขื่อนน้ำอูน ระดับน้ำอยู่ที่ 104% ของความจุ, เขื่อนศรีนครินทร์ ระดับน้ำอยู่ที่ 89% ของความจุ, เขื่อนวชิราลงกรณ์ ระดับน้ำ 91% ของความจุ, เขื่อนขุนด่านปราการชล ระดับน้ำอยู่ที่ 87% ของความจุ, เขื่อนแก่งกระจาน ระดับน้ำ 108% ของความจุ, เขื่อนปราณบุรี ระดับน้ำอยู่ที่ 85% ของความจุ และเขื่อนรัชชประภา ระดับน้ำอยู่ที่ 87% ของความจุ

ด้านศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) สรุปการเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ ประจำที่ 23 ส.ค.2561 ว่า สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางวานนี้ (22 ส.ค.61) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ที่ระดับ 54,932 ลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 72 (ปริมาตรน้ำใช้การได้ 31,011 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 59) ปริมาตรน้ำในอ่างฯ เทียบกับปี 2560 (49,779 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 65) มากกว่าปี 2560 จำนวน 5,153 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จำนวน 498.44 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย จำนวน 279.27 ลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 21,163 ลูกบาศก์เมตร

ส่วนสภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา (4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ในวันนี้ (23 ส.ค.61) ปริมาตรน้ำในอ่างฯ อยู่ที่ระดับ 15,514 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 62 (ปริมาตรน้ำใช้การได้ 8,818 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 49) ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จำนวน 140.26 ลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย จำนวน 42.9 ลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 9,496 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง (22 ส.ค. 61) ที่มีปริมาณน้ำอยู่ระหว่าง 80% – 100% มีจำนวน 59 แห่ง (มีโอกาสเกิดน้ำไหลผ่านอาคารระบายน้ำล้น) และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 100% มีจำนวน 19 แห่ง (มีน้ำไหลผ่านอาคารระบายน้ำล้น)

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยเดือนสิงหาคม 2561 ทั้ง 12 จังหวัด ได้แก่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง, อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์, อำเภอเมือง จังหวัดน่าน, อำเภอเมือง จังหวัดแพร่, อำเภอวารินชำราบและอำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี

รวมทั้งอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก, อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร, อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์, อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์, อำเภอเมือง จังหวัดเลย และอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย โดยปัจจุบัน (23 ส.ค.61) มีพื้นที่น้ำท่วม 1 จังหวัด จากพื้นที่เฝ้าระวัง 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี

ส่วนสถานการณ์โดยรวมปัจจุบันยังคงเฝ้าระวังในลำน้ำสายหลักต่างๆ เนื่องจากประเทศไทยยังมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง

Back to top button