จับตา 3 บจ.จ่อควบรวมกิจการรับลูกกสทช.ปรับเกณฑ์ทีวีดิจิทัลต่อลมหายใจเอกชน
จับตา 3 บจ.ประกาศควบรวมกิจการรับลูกกสทช.ปรับเกณฑ์ทีวีดิจิทัลต่อลมหายใจเอกชน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงกรณีที่ กสทช. มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ว่า ประกาศดังกล่าวเป็นการเปิดทางให้ผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่ได้รับใบอนุญาตสามารถควบรวมกิจการได้ โดยประกาศได้ทำการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้ว
ทั้งนี้หลังจากประกาศฉบับนี้ยังต้องมีการแก้ไขปัญหาทีวีดิจทัลอีกหลายประเด็น อาทิ ผลจากการควบรวมกิจการ การเตรียมการรับเทคโนโลยี 5G ของทีวีดิทัล เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยคณะทำงานแก้ไขปัญหาทีวีดิจทัลอย่างยั่งยืนจะทำการศึกษาแนวทางที่เหมาะสมและเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดต่อไป
ขณะที่แหล่งข่าวในวงการทีวีดิจิทัลรายหนึ่ง ระบุว่า ภายหลังจาก กสทช.ออกประกาศดังกล่าวลงในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะทำให้มีโอกาสได้เห็นผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลควบรวมกิจการกันอย่างน้อย 3 กลุ่ม และจำนวนช่องทีวีดิจิทัลจะหายไปประมาณ 5 ช่องจากทั้งหมดที่มีทั้งหมด 22 ช่อง
สำหรับกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากประกาศ กสทช.ฉบับล่าสุด คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีช่องทีวีดิจิทัลในมือจำนวน 2 ช่องชึ้นไป และกลุ่มบริษัทที่อยู่นอกตลาดหุ้นก็อาจมีพันธมิตรใหม่ เพื่อให้มีฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้นก่อนนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม แนวทางควบรวมกิจการทำให้ผู้ประกอบการแข็งแรงขึ้น โดยอาจรวม 2 ช่องเหลือช่องเดียว ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง แต่ยังต้องชำระค่าใบอนุญาตในจำนวนเท่าเดิมจากที่ยังเหลือระยะเวลาชำระอีก 3 ปี ขณะที่ทำให้จำนวนช่องทีวีดิจิทัลลดลง ซึ่งก็จะทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลลดลงด้วย
ขณะที่แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวว่า เท่าที่ประเมินน่าจะมีการควบรวมกิจการ 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ที่มี 2 ช่องคือ ช่อง TNN (16) และช่อง TRUE4U (24), กลุ่ม บริษัท เนชั่น มันติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ที่มี 3 ช่องในมือ คือช่อง Nation22 ,ช่อง NOW26 และช่องสปริงนิวส์ และ กลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ที่มี 2 ช่อง คือช่อง GMM(25) และ ช่อง ONE (31)
ขณะที่กลุ่ม บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC คงควบรมกิจการได้ยาก เพราะผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ทั้ง 3 ใบเป็นรายเดียวกันคือบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 20 ส.ค.61 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
โดยเป็นการแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดลักษณะและมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อป้องกันมิให้มีการประทำอันเป็นการผูกขาด ลด หรือ จำกัดการแข่งขันในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรมกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว และพฤติกรรมการบริโภคสื่อของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปอันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายทางเทคโนโลยีด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม จึงเห็นควรให้มีการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนในทางปฏิบัติ และส่งเสริมผู้รับใบอนุญาตให้สามารถประกอบธุรกิจและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ขณะที่ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดลักษณะและมาตรการกำกับดูและการควบรวมกิจการ การถือหุ้นไขว้และการครอบงำกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2557
ทั้งนี้ผู้รับใบอนุญาติ หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ ตามกฏหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และให้หมายความรวมถึงผู้ได้รับอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาให้ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์จากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐที่ชอบด้วยกฏหมายอยู่ในวันที่กฏหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ใช้บังคับ