สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 29 ส.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมุมมองด้านบวกที่นักลงทุนมีต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดา นอกจากนี้ การขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ของสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,124.57 จุด เพิ่มขึ้น 60.55 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,914.04 จุด เพิ่มขึ้น 16.52 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109.69 จุด เพิ่มขึ้น 79.65 จุด หรือ +0.99%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า สหภาพยุโรปเตรียมเสนอให้อังกฤษได้รับสถานะการเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากที่อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของสภาพยุโรป (Brexit) แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินปอนด์ได้สร้างแรงกดดันต่อหุ้นบริษัทข้ามชาติ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 386.58 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,561.68 จุด เพิ่มขึ้น 34.26 จุด หรือ +0.27% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,501.33 จุด เพิ่มขึ้น 16.34 จุด หรือ +0.30% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.21 จุด ลดลง 54.01 จุด หรือ -0.71%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์เป็นปัจจัยฉุดหุ้นบริษัทข้ามชาติ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาในประเด็นที่อังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป EU (Brexit) หลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อังกฤษ และ EU ได้เลื่อนเส้นตายการบรรลุข้อตกลง Brexit ออกไปเป็นกลางเดือนพ.ย.เป็นอย่างช้าที่สุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,563.21 จุด ลดลง 54.01 จุด หรือ -0.71%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลง เนื่องจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 69.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 77.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 1,211.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 7.7 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 14.697 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 796.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 18.90 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 954.30 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า สหภาพยุโรปเตรียมเสนอให้อังกฤษได้รับสถานะการเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากที่อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของสภาพยุโรป (Brexit) แล้ว ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 2
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3020 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2867 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1698 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1696 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7299 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7335 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.69 เยน จากระดับ 111.21 เยน แต่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9713 ฟรังก์ จากระดับ 0.9766 ฟรังก์