การเมืองกระทบหุ้น

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เหมือนวัน “ปลดล็อก” หุ้น IRPC หรืออุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัล (TPI) เดิม เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ข้อหาปฏิบัติไม่ชอบตามมาตรา 157


ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เหมือนวัน “ปลดล็อก” หุ้น IRPC หรืออุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัล (TPI) เดิม เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ข้อหาปฏิบัติไม่ชอบตามมาตรา 157

กรณีในฐานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท TPI เดิมของตระกูลเลี่ยวไพรัตน์ หรือ IRPC ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ปตท. ในปัจจุบัน

ป.ป.ช.เป็นผู้ฟ้องเอง โดยไม่ใช้บริการของอัยการสูงสุด เนื่องจากแนวทางขัดกัน โดยฟ้องข้อหาละเว้นและปฏิบัติมิชอบตามมาตรา 157

ทำให้ระบบราชการและกระทรวงการคลังเสียหาย ท่ามกลางความงุนงงของวิญญูชนทั่วไปว่าระบบราชการและกระทรวงการคลังเสียหายตรงไหน!

มูลหนี้จำนวน 1.3 แสนล้านบาท ของ TPI ยุคนั้น ก็ได้รับการชำระโดยเรียบร้อยหมดจด และชื่อเสียงประเทศชาติก็ไม่ได้รับความเสียหายจากการ “ชักดาบ” หนี้รายใหญ่ หลังผ่านการฟื้นฟูกิจการก็แข็งแรง เจริญก้าวหน้ามั่นคงตราบจนถึงปัจจุบันนี้

แล้วระบบราชการและกระทรวงการคลังเสียหายตรงไหน พระคุณท่าน ป.ป.ช.!

พอศาลฯ มีคำพิพากษายกฟ้องออกมา ราคาหุ้นซึ่งถูกกดดันมานานจากแรงฟ้องของ ป.ป.ช.ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา และยืนเหนือระดับ 7 บาท หลุดลุ่ยมาใต้ 6 บาท ทั้งที่ย้อนแย้งกับผลประกอบการที่เติบโตเป็นอันมาก ก็ทะยานปรับตัวมาปิดที่ 6.85 บาทได้ วอลุ่มการซื้อขายก็ถล่มทลายกว่า 1.1 พันล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของตลาด

แนวโน้มคงจะกลับไปยืนเหนือระดับ 7 บาทได้อีกในไม่ช้านี้

แต่ก็น่าคิดนะว่าราคาหุ้นถูกกดดันจากคำฟ้องของ ป.ป.ช.ไปเสียเวลาซะเกือบ 4 เดือนทำไม ช่วงที่ยังอยู่ในกระบวนการไต่สวน อาจจะมีคนตัดสินใจขายหุ้นทิ้ง หรือที่เรียกว่า “ขายหมู” ทำให้ผู้ลงทุนจำนวนมากเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ

ความเสียหายของผู้ลงทุนในหุ้น IRPC คือความเสียหายที่จริงแท้แน่นอน หาใช่ความเสียหายอันเลื่อนลอยของกระทรวงการคลังและระบบราชการ ที่ ป.ป.ช.จินตนาการเอาเองเป็นแน่

ผมเคยเขียนถึงเรื่อง ป.ป.ช.ฟ้องทักษิณ เรื่องยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าบริหารแผนฟื้นฟู TPI ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ว่า ป.ป.ช.ฟ้องได้ยังไง ในเมื่อข้อเท็จจริงมันไม่ได้ก่อความเสียหาย และในทางตรงกันข้ามกลับก่อคุณูปการอย่างสูงต่อเจ้าหนี้และลูกหนี้ รวมทั้งชื่อเสียงประเทศชาติด้วยซ้ำ

นอกจากนั้น ข้อหาความไม่ชอบในการเข้าบริหารแผนฯ ของกระทรวงการคลัง แล้วจะเล่นงานทักษิณตาม “ธงทางการเมือง” ก็ได้ผ่านคำตัดสินมาจากสองศาลแล้ว คือศาลล้มละลาย และศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อศาลนั้นเอาผิดไม่ได้ ก็หาทางมุดช่องไปหาศาลอื่น ศาลอื่นก็ยกฟ้อง แล้วยังไปค้นหาเอาผิดให้ได้ในศาลที่สาม นี่มันมาตรฐานการทำงานของ ป.ป.ช.ประเทศไทยหรือ

มาตรฐานการทำงานของ ป.ป.ช.นั้นมีปัญหาแน่ ๆ ทั้งหลักคิดและวิธีการทำงาน

ทีคดีจีทีเอ็กซ์ 200 เครื่องมือตรวจระเบิดลวงโลก ที่มีผลพิสูจน์ออกมาแล้ว และผู้กระทำผิดก็ถูกตัดสินลงโทษไปแล้วในต่างประเทศ แต่ในเมืองไทย หลักคิดของ ป.ป.ช.ยังมองแบบให้อภัยว่า “อย่างน้อยก็เหมือนเป็นพระเครื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่นำไปใช้แล้วเขารู้สึกว่าคุ้มค่า”

ดูดู๋ ดูหลักคิดเอาหลักไสยศาสตร์ของ ป.ป.ช.มาใช้ในการทำงานเอาเถอะ

เรื่องโรงพักร้าง 398 แห่ง ก็ปล่อยเวลาเนิ่นนานเป็นสิบปี เพิ่งจะมีการชี้มูลความผิดเอาตอนนี้ เรื่อง “แหวนแม่นาฬิกาเพื่อน” จนบัดนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า “คนอะไรสามารถยืมนาฬิกาเพื่อนได้ตั้ง 25 เรือน” การทำงานของ ป.ป.ช.ดูจะลูบหน้าปะจมูกไปหมด และที่ร้ายที่สุดก็คือ “เล่นงานกลุ่มฝั่งตรงข้ามทางการเมืองอยู่ข้างเดียว”

ความเสียหายในตลาดหุ้นจากกรณี IRPC ก็เกิดเนื่องมาแต่เหตุประการนี้

Back to top button