TFG ส่งซิกครึ่งปีหลังโตแจ่ม รับราคาเนื้อหมู-ไก่ ในประเทศฟื้นตัว
TFG ส่งซิกครึ่งปีหลังโตแจ่ม รับราคาเนื้อหมู-ไก่ ในประเทศฟื้นตัว
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3-4/2561 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยธุรกิจไก่นั้น บริษัทฯ ได้เร่งปรับพอร์ตการผลิตและการขาย เข้าสู่ตลาดส่งออกที่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น เพื่อเพิ่มราคาขายเฉลี่ย
โดยปรับเป้าหมายรวมส่งออกรวมเป็น 60,000 ตัน ต่อปี หรือ 25% รายได้สินค้าไก่ทั้งหมด ประกอบด้วย ตลาดส่งออกเพิ่มเติมทั้ง ยุโรป และญี่ปุ่น ยังเติบโตต่อเนื่องและมั่นใจว่าน่าจะทำได้เกินเป้าหมายเดิม 50,000 ตัน ภายในสิ้นปี และตลาดส่งออกใหม่ที่บริษัทฯได้รับอนุญาตให้ส่งออกได้ คือประเทศจีน ซึ่งมีความต้องการสินค้าประเภท ขาไก่ และ ปีก เพิ่มขึ้นมาก ถึงสิ้นปี น่าจะทำได้เพิ่มอีกประมาณ 7,000 ตัน และในราคาสูงกว่าราคาในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนที่ได้เพิ่มเข้ามาอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างกำไรให้สูงกว่าการขายในประเทศ เนื่องจากราคาส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่เร่งปรับเปลี่ยนสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะสินค้า by-products เป็นสินค้าปรุงสุก ส่งออกและอุตสาหกรรม และ ลดการขายสินค้าไก่ภายในประเทศลง
ขณะนี้บริษัทฯ ได้เริ่มผลิตไก่ปรุงสุก เพื่อส่งออก จากโรงงานใหม่ โดยเริ่มทำงานกับ บริษัทพันธมิตรธุรกิจ ผลิตให้กับลูกค้ารายใหญ่จากญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก เป็นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ มีออร์เดอร์ กลุ่มแรก เป้าหมาย 1,500 ตัน มูลค่าประมาณ 290 ล้านบาท ซึ่งมีราคาเฉลี่ยสูงกว่าราคาส่งออกไก่ดิบแช่แข็ง และ จะเป็นคำสั่งซื้อระยะยาวต่อเนื่อง มีราคาเสถียรกว่า ทำให้ธุรกิจยั่งยืนกว่า และเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าไก่เฉลี่ยให้สูงขึ้น อีกทางหนึ่ง โดยในปีหน้า ธุรกิจส่วนนี้จะเติบโตขึ้นอีกมาก จากโรงงานไก่ปรุงสุกที่มีกำลังการผลิตประมาณ 30,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 20% ของรายได้รวมจากสินค้าไก่
ส่วนธุรกิจสุกรในประเทศ ราคาตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากระดับต่ำสุดในไตรมาส 1/61 และไตรมาส 2/61 ยังได้รับผลกระทบบางส่วนจากราคาเฉลี่ยที่ต่ำ ปัจจุบัน ราคาสุกรเป็นอยู่ที่ประมาณ 62-64 บาทต่อกิโล และราคาสุกรชำแหละเฉลี่ยที่ประมาณ 77-79 บาทต่อกิโล ทำให้สธุรกิจสุกร สามารถสร้าง รายได้สูงขึ้นมาก จึงเร่งขยายแผนการเลี้ยงและขาย จากในครึ่งปีแรกเดือนละ 70,000 ตัว เพิ่มอีก 14% เป็น 80,000 ตัวต่อเดือน ในไตรมาส 4 เพื่อรับการตอบรับดีมานด์และราคาตลาดในครึ่งปีหลังและ ต้นปีหน้า โดยธุรกิจ สุกร โดยรวมน่าจะทำรายได้รวมประมาณ 6,000 ล้านบาทในปีนี้
ส่วนตลาดสุกรในเวียดนามราคาปรับตัวสูงขึ้นสูงกว่าในประเทศไทย โดยราคาตลาดของสุกรปัจจุบันอยู่ที่สูงกว่า 70 บาทต่อกิโลกรัม ขณะเดียวกันบริษัทฯ ส่งสุกรเข้าตลาดเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 7,000 ตัวต่อเดือน เป็นเดือนละ 8,000 ตัว ในครึ่งปีหลัง
ด้านธุรกิจอาหารสัตว์ครึ่งปีแรกมีการขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รายได้ขยายตัวต่อเนื่อง ในปีนี้ยอดขายภายในเครือประมาณ 12,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายการขายนอกเครืออยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งปีหรือขยายตัวกว่า 35% จากปีที่แล้ว และสามารถทำกำไรขั้นต้นได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ กำลังก่อสร้าง โรงงานผลิตอาหารสัตว์เพิ่ม กำลังการผลิตอีก 75,000 ตันต่อเดือน ซึ่งจะเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตและ การขายเพิ่มได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีหน้าอีก 25%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความมั่นใจว่าธุรกิจ ทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น ยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว และสร้างรายได้รวมและมีกำไรในปี 2561 ขณะที่บริษัทฯ ยังต้องบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ราคาตลาดของไก่และสุกร ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ รวมถึงป้องกันโรคระบาดของไก่และสุกร อย่างระมัดระวังขั้นสูงสุด