SETรูด12จุด เสี่ยงหลุด1,700จุด ตามตลาดหุ้นตปท. เซ่นวิกฤตค่าเงิน-สหรัฐฯจ่อเก็บภาษีจีนเพิ่ม

SETรูด12จุด เสี่ยงหลุด1,700จุด ตามตลาดหุ้นตปท. เซ่นวิกฤตค่าเงิน-สหรัฐฯจ่อเก็บภาษีจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย ณ เวลา 10.58 น. อยู่ที่ 1,702.38 จุด ลบ 12.03 จุด หรือ 0.70% สูงสุดที่ 1,711.37 จุด ต่ำสุดที่ 1,701.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.38 หมื่นล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10.58 น. อยู่ที่ 1,702.38 จุด ลบ 12.03 จุด หรือ 0.70% สูงสุดที่ 1,711.37 จุด ต่ำสุดที่ 1,701.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.38 หมื่นล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงแรง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งเรื่องวิกฤติค่าเงินชิลี-อาร์เจนตินา และข่าวลือสหรัฐมีแนวโน้มจะเดินหน้าเก็บภาษีจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐพฤหัสนี้

โดย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SET ได้รับผลกระทบทางลบจากปัจจัยต่างประเทศคือ ข่าวสหรัฐมีแนวโน้มจะเดินหน้าเก็บภาษีจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐพฤหัสนี้ วิกฤติค่าเงินชิลี-อาร์เจนตินา (อินโดนีเซียค่าเงินอ่อนมาก) คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนนี้เป็นครั้งที่ 3 ประชุม 25-26 ก.ย.นี้ ดอลลาร์แข็งค่า บาทอ่อน เงินไหลออก ติดตามผลเจรจารอบ 2 แคนาดา-สหรัฐ เรื่อง NAFTA วันนี้

ส่วนสิ่งที่ยังดีอยู่คือ น้ำมันปรับขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจไทยดีต่อเนื่อง แม้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าคาด จะมีการปลดล็อคบทบาทพรรคการเมืองไทย โดยใช้มาตรา 44 ด้านตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเช้านี้ปรับลงถ้วนหน้า ดาวโจนส์ล่วงหน้า -13 จุด (8.24 น.) น้ำมันเช้านี้ปรับลง ระยะสั้นยังต้องระวังแรงขายทำกำไรที่จะมีสลับออกมา ปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือ สงครามการค้า จีน-สหรัฐ ที่ยังไม่คืบหน้า เนื่องจากทรัมป์ยังต้องการป้องกันการขาดดุลการค้าต่อไป การที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน ปัญหาตุรกี-อาร์เจนฯ-อิตาลี

ส่วนระยะกลาง-ยาวเฟดคาดปีนี้จะปรับขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง (ปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี) และปีหน้าอีก 3 ครั้ง ทำให้แนวโน้มดอลลาร์แข็งค่า และเงินไหลออกกลับไปสหรัฐ นับว่าปัจจัยต่างประเทศยังกดดันในเรื่องกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

อย่างไรก็ตามปัจจัยภายในที่ดีคือ การเลือกตั้งไทยเป็นไปตามโรดแม็ป เศรษฐกิจไทยยังดี แต่กังวลไทยจะได้รับผลกระทบสงครามการค้าตั้งแต่ปีหน้า เพราะเราเป็นห่วงโซ่ผู้รับจ้างผลิตและส่งออก จึงอาจได้รับผลลบได้

สำหรับกลยุทธ์ในสัปดาห์นี้ ยังคงเน้นลงทุนหุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานดี และมีประเด็นที่น่าสนใจ หุ้นเน้นธุรกิจในประเทศ (Domestic Play) หรือหุ้นไม่ผันแปรตามเศรษฐกิจ (Domestic Play) รวมทั้งหุ้นปันผลสูง นักลงทุนระยะสั้นควรเล่นรอบสั้นๆ ไม่หวังกำไรมาก ระยะกลาง-ยาวควรตั้งเป้าผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรม และทยอยขายทำกำไรเมื่อได้ตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ตามระยะนี้คาดว่า SET จะซื้อขายอยู่ในกรอบเป็น 1,710-1,730 จุด แต่หากดัชนีลดต่ำกว่าระดับ ,1710 จุด จะเป็นสัญญาณไม่ดีนัก SET ตามพื้นฐานระยะยาวให้ไว้ที่ 1,860 จุด ที่ระดับ P/E 17 เท่า ซึ่งเป็น Median+1 SD และ EPS ปี 61 เติบโตเฉลี่ย 10%

10 อันดับหุ้นกดดัชนีเช้านี้

ที่มา : ASPEN

ตลาดหุ้นต่างประเทศ

ที่มา : ASPEN

Back to top button