“TPLAS” ปลื้ม! เทรดวันแรกราคาพุ่งเท่าตัว ระดมทุนขยายโรงงานหนุนรายได้โต

“TPLAS” ปลื้ม! เทรดวันแรกราคาพุ่งเท่าตัว ระดมทุนขยายโรงงานรับความต้องการของลูกค้าในปท.-นอกปท. หนุนรายได้โต


บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร เข้าซื้อขายวันแรก ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 104% จากราคาไอพีโอ 1.48 บาท พร้อมเดินหน้าตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารระดับต้นๆของประเทศ พร้อมกับประกาศขึ้นเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่ทันสมัย มีคุณภาพสูง และมีความหลากหลาย รองรับความต้องการของลูกค้าในประเทศและภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หนุนผลงานระยะยาวเติบโตโดดเด่น

ด้าน นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ TPLAS เปิดเผยว่า จากการปรับตัวเพิ่มของราคาหุ้นในวันนี้ (5ก.ย.61) ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนที่มีต่อการดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารประเภท Polypropylene (PP), ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้วประเภท High Density Polyethylene (HDPE) ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “หมากรุก” และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร Polyvinyl Chloride (PVC) ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “Vow Wrap” ในครั้งนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯยังมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่ทันสมัย และมีคุณภาพสูง รวมถึงมีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศและภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวน 103.60 ล้านบาท จะนำไปใช้เพื่อการขยายอาคารโรงงานใหม่ พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก และปรับปรุงอาคารโรงงานเดิม รวมถึงสำนักงานบริษัทฯ จำนวน 70 ล้านบาท เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากถุงพลาสติก และการขยายตลาดมากขึ้น และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทฯมีการผลิตสินค้าขนาดที่ใช้ทั่วไปในตลาดแบบ Mass Production เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหารที่มีมากในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันกำลังการผลิตถุงพลาสติก รวม 10,281.60 ตันต่อปี โดยแบ่งเป็น ถุงพลาสติกประมาณ 850 ตันต่อเดือน ในขณะที่กำลังการผลิตฟิล์มถนอมอาหาร (PVC) อยู่ที่ 1,411.20 ตันต่อปี หรือประมาณ 120 ตันต่อเดือน และมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากบริษัทฯกว่า 5,000 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปตามตลาดท้องถิ่นต่างๆ

นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มกำลังผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณพร้อม และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการเก็บรักษาสินค้าและวัตถุดิบให้อยู่ได้นาน หรือห้างสรรพสินค้า และโรงแรมที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทฯมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายเปิดการค้าเสรี (AEC) มั่นใจหากเดินหน้าตามแผน จะส่งผลให้ผลการดำเนินทางธุรกิจของบริษัทฯปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ด้าน กรรมการผู้จัดการของ TPLAS กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมถุงพลาสติกในประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ในปีพ. ศ. 2561 จากมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาทในปี 2560 จากการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้ประชาชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นไปด้วย

ขณะเดียวกันการเติบโตของร้านค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าต่างๆ ซึ่งขยายตัวและมีการก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ร้านค้าเหล่านี้จะมีความต้องการใช้ถุงพลาสติกที่เพิ่มขึ้น

ส่วนการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นที่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก  เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ในส่วนของสินค้าแช่แข็งที่แนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น และในส่วนของอาหารสำเร็จรูปที่ผู้จำหน่ายจะเน้นคุณภาพ ความสดความสะอาด ซึ่งจะต้องมีการบรรจุในผลิตภัณฑ์ที่ทำเพื่ออาหารโดยเฉพาะ เป็นต้น จากการเติบโตของอุตสาหกรรมที่กล่าวข้างต้น จะส่งผลทำให้ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกเพิ่มขึ้น

ด้าน นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการ การจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ของ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ในวันนี้ถือประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารที่ทันสมัย

ทั้งนี้ บริษัทฯมีความแข็งแกรงทางด้านการเงินโดยมีอัตราหนี้สินต่อทุนเพียง 0.4 เท่า และหนี้ในปัจจุบันมีเพียงหนี้ทางการค้า และหนี้ระยะยาวเหลือเพียงเล็กน้อย และวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในตลาดหุ้นก็พอใช้ในการก่อสร้างโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อรองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงานได้มากยิ่งขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานของ TPLAS  ในปี 2560 มีรายได้จากการขายรวม 530.96 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.09 ล้านบาท  และล่าสุด บริษัทฯมีรายได้รวม งวด 6 เดือนปี 2561 ที่ 273.14 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท  ทั้งนี้เป็นผลมาจากดีมานความต้องการใช้ถุงพลาสติกยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯต้องเพิ่มปริมาณกำลังการผลิตถุงพลาสติกของบริษัทฯ เพื่อรองรับกับดีมานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ

 

Back to top button