จบแบบเจ็บ ๆ
*อุตส่าห์เชียร์กันมาจน นมยาน..อุ๊ย..นมนาน กาเลเหมือนเทน้ำเทท่า สุดท้ายดัชนีก็บ่จี๊อีกตามเคยแบบนี้ “โมนิก้า” รู้สึกมีอาการ So Sad เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่คาดหวังก่อนหน้านี้ต้องมลายหายไปในพริบตา จนมองไม่เห็นหนทางที่จะกู่ให้กลับมาดีดั่งเดิม บวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกต้องมาเจอกับปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน สถานการณ์โดยรวมถึงดูไม่ค่อยดีเอาเสียเลยนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*อุตส่าห์เชียร์กันมาจน นมยาน..อุ๊ย..นมนาน กาเลเหมือนเทน้ำเทท่า สุดท้ายดัชนีก็บ่จี๊อีกตามเคยแบบนี้ “โมนิก้า” รู้สึกมีอาการ So Sad เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่คาดหวังก่อนหน้านี้ต้องมลายหายไปในพริบตา จนมองไม่เห็นหนทางที่จะกู่ให้กลับมาดีดั่งเดิม บวกกับตลาดหุ้นทั่วโลกต้องมาเจอกับปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน สถานการณ์โดยรวมถึงดูไม่ค่อยดีเอาเสียเลยนะจะบอกให้
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบกลับไปพลิกตำราการลงทุน เพื่อสรุปสิ่งที่เกิดขึ้น ในเที่ยวนี้ เที่ยวก่อนหน้า และเที่ยวถัดไป มีอะไรเป็นกิมมิคที่น่าสนใจหรือไม่ ? หรือแม้กระทั่งบริษัทไหนมีผลงานโดดเด่นเป็นสง่าแบบยั่งยืนมีเยอะไหม ? โดยคำตอบที่ได้จากเรื่องนี้คือ ไม่ชัดเจนเลยสักเรื่อง ! เดี๊ยนเลยต้องปรับแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนเที่ยวนี้ใหม่ไงล่ะคะ
*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ดัชนีไหลลงมายืนอยู่ที่ 1,686.37 จุด ลบไป 28.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.01 หมื่นล้านบาท เพราะวงรอบใหญ่มีการเคลื่อนตัวแบบ V-Shape ส่วนวงรอบเล็กมีการเคลื่อนตัวแบบ M-Shape ส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างต้องกลับมาตั้งต้นแถวบริเวณ 1,650 จุดอีกครั้ง แนวตรงกลางในการตั้งลำอยู่แถว 1,700 จุด และจุดด้านบนสุดของการจบรอบอยู่ที่ระดับ 1,730 จุดนะตัวเอง
*วันนี้เมื่อย้อนมองกลับไปจะเห็นว่า มันไม่มีอะไรแตกต่างเลยจริง ๆ และที่ร้ายไปกว่านั้นคงเป็นสถานการณ์ของหุ้นดาวเด่นบางตัวไม่สามารถเปล่งประกายให้แมงเม่าได้ชมอย่างถนัดตา “โมนิก้า” ถึงพยายามให้ผู้เล่นเข้าใจหลักปฏิบัติในการเล่นสั้น ๆ ควรยึดระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด อย่าหลวมตัวไปกับแสงสีเขียว ๆ ที่วูบวาบเพียงชั่วครั้งชั่วยาม เพราะมันเป็นหนทางนำไปสู่การติดดอยเจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ BANPU ทำท่าทะยานขึ้นอยู่หลายรอบ แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นโล้เป็นพายสักที แถมการเคลื่อนตัวในรอบ 4 เดือนวนเวียนไปมาในกรอบราคา 19.50-21.50 บาทเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้ผู้เล่นลองอ่านทิศทางหุ้นหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ? หลังหุ้นทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ระดับ 19.80 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะช้อนของเพื่อเล่นรอบหรือเปล่า ?
*ส่วนที่จบไม่สวยอย่างหุ้น CPALL กลายเป็นประเด็นที่ผู้คนบนโลกโซเชียลถกเถียงกันอย่างสนุกปาก เพราะบางกระแสก็พูดถึงผลงานไม่แจ่มเหมือนเมื่อก่อน ขณะที่บางกระแสก็พูดถึงกองทุนกำลังปรับพอร์ต “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเชื่อกระแสข่าวอันไหนดี ! เพราะทั้ง 2 ข่าวก็มีผลทำให้หุ้นร่วงเป็นเวลานาน..ลองคิดดูกันเล่น ๆ เดือน พ.ค. หุ้นยืนแถว 90 บาท ล่าสุดยืนปิดที่ 65.25 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไปอีก 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.89 พันล้านบาท หมดสภาพไหมล่ะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของปูนใหญ่ SCC ทำท่าเหมือนจะฟื้นตัวและสร่างจากพิษไข้ได้อยู่แล้วเชียว จู่ ๆ กลับมีอาการช็อกตาตั้งขึ้นมากะทันหัน จนหุ้นย้อยตัวลงมาปิดที่ระดับ 442 บาท ลบไป 10 บาท หรือลงไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความน่ากังวลที่แมงเม่าอย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะดีกว่า หลังหุ้นหลุดแนวรับสุดท้ายลงมาพร้อมกับแรงเทขายที่ยังแน่นเอี้ยดนะซี
*อาการดังกล่าวคล้ายกับ TKN ทุกประการ ยิ่งย้อนกลับไปดูการเคลื่อนตัวของหุ้นทีละช็อต ยิ่งมีแต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงนั้น “โมนิก้า” ถึงใจคอไม่ดีเมื่อเห็นหุ้นทิ้งตัวลงมาปิดที่ 15.50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 288 ล้านบาท เพราะมันหมายถึงนักเล่นกำลังทิ้งหุ้นหนีตายกันจ้าละหวั่น พร้อมกับยืนยันในหลักการ “ขายบน ซื้อล่าง” ปลอดภัยกว่าเจ้าค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการที่หุ้น SGP โดนถล่มเทขายอย่างหนักตลอดทั้งวัน ก่อนจะปิดไปที่ราคา 12 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 261 ล้านบาท “โมนิก้า” ตีความได้ทันทีว่า นี่เป็นเทขายทำกำไรเมื่อมาถึงยอดเก่า ส่วนอีกประเด็นคงเป็นเรื่องของผลงานในไตรมาส 3 ออกมาแย่กว่างวดก่อน ๆ เมื่อดูภาพรวมทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ จึงเป็นจังหวะของการขายเพื่อไปรับข้างล่างนะจ๊ะ
*เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน ORI มีแรงเทขายออกมาตลอดทั้งวัน จนหุ้นหลุดแนวรับสุดท้ายบริเวณ 18.30 บาท ซึ่งเป็นจุดตัดกับเส้น 200 วัน ก่อนจะจบเกมด้วยการปิดจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 17.60 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 113 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้นักเล่นต้องหันไปมองโลว์เก่าที่ระดับราคา 16 บาทอีกครั้งไงล่ะคะ