SITHAIคาดยอดขายปีนี้แตะหมื่นลบ. วางเป้ากำไรปี63โตก้าวกระโดด หลังปรับองค์กร-รุกทำดีลM&A
SITHAI วางเป้ากำไร-รายได้เติบโตก้าวกระโดดในปี 63 หลังรุกปรับองค์กร-ทำดีล M&A เกี่ยข้องบรรจุภัณฑ์พลาสติก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 63 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และกำไรสุทธิก็จะเติบโตไปตามรายได้ จากการปรับโครงสร้างภายในองค์กรให้มีความพร้อม โดยเฉพาะด้านบุคลากรวิศวกรรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาการผลิต และการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมซึ่งจะนำไปสู่นวัตกรรมรูปแบบใหม่ รวมถึงการเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นดาวรุ่งสำหรับ SITHAI ในอนาคต เนื่องจากยังมีความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี
สำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 1 หมื่นล้านบาท เติบโตราว 4% จากระดับ 9.58 พันล้านบาทในปีที่แล้ว โดยในช่วงครึ่งแรกปีนี้สามารถทำยอดขายได้แล้ว 4.72 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าในครึ่งปีหลังยอดขายจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ประกอบกับในไตรมาส 4/61 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ขวดและกล่องใส่อาหารสำเร็จรูป รวมถึงมีการขยายตลาดไปยังอเมริกาและยุโรป ซึ่งก็มีการเติบโตมากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากต่างประเทศ 25% และในประเทศ 75%
“เราคงจะอยู่ในธุรกิจพลาสติกที่เรามีความถนัด การขยายก็คงจะขยายไปในต่างประเทศเป็นหลัก ส่วนโรงงานในต่างประเทศที่เรามีอยู่แล้วเราก็มีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเข้าซื้อธุรกิจในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ซึ่งทุกปีก็จะมีโรงงานจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ที่จะมาเสนอขายให้เรา แต่เราก็ขอเตรียมความพร้อมในเรื่องของคนก่อน” นายสนั่น กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทจะเน้นการปรับโครงสร้างภายในองค์กร และพัฒนาการทำงานเป็นหลัก โดยยังไม่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความผันผวนของค่าเงิน ทำให้ในปี 61-62 จะยังไม่เห็นภาพของการลงทุนของบริษัท
อย่างไรก็ตามบริษัทจะเริ่มพิจารณาการลงทุนรอบใหม่อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะเป็นการลงทุนเพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตในปี 63 ในประเทศไทยและเวียดนาม จากปัจจุบันที่มีการใช้กำลังการผลิตเกือบ 70% และ 100% ตามลำดับ
“ในประเทศอินโดนีเซียเราคงไม่มีแผนขยายการลงทุน ซึ่งเราเป็นเพียงหุ้นส่วน ถือหุ้นในสัดส่วน 40% รวมถึงประเทศอินเดีย เราถือหุ้น 100% เราต้องการปรับการบริหารภายในบริษัทก่อน แต่เราจะมุ่งเน้นขยายการลงทุนในประเทศเวียดนามมากกว่า โดยเฉพาะในปี 63 ซึ่งเราเชื่อว่าประเทศเวียดนามจะมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และในอีก 8 ปีข้างหน้าก็เป็นไปได้ว่าเวียดนามจะมีกำลังการผลิตเติบโตกว่าในประเทศไทย”
ส่วนแผนการนำบริษัท ศรีไทย (เวียดนาม) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจากการระดมทุน แต่ในอนาคตอีก 8 ปีข้างหน้าโรงงานในประเทศเวียดนามจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงกว่าประเทศไทย ทำให้อาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจากการระดมทุนเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตในอนาคต
ขณะที่การลงทุนเพิ่มอีก 25% ในบริษัท ศรีไทย-อ๊อตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (S-OTTO) ซึ่งประกอบธุรกิจค้าขายผลิตภัณฑ์พลาสติก (ถังขยะ) ส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 75% ทำให้สามารถรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้น หรือมีรายได้ต่อปีราว 100 ล้านบาท
อนึ่ง ปัจจุบัน SITHAI มีโรงงานในไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย โดยในไทยและเวียดนาม เป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ทำจากเมลามีน และบรรจุภัณฑ์พลาสติก ขณะที่อินโดนีเซีย เป็นโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เมลามีน ส่วนอินเดีย เป็นโรงงานผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ทำจากเมลามีน