4 หุ้น รพ.น่าสอยรับไฮซีซั่น

เข้าช่วงครึ่งปีหลังของทุกปี...หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลก็มักถูกหยิบยกขึ้นมาเล่นเป็นประจำ เนื่องจากเป็นช่วง High Season  นั่นเอง


เส้นทางนักลงทุน

เข้าช่วงครึ่งปีหลังของทุกปี…หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลก็มักถูกหยิบยกขึ้นมาเล่นเป็นประจำ เนื่องจากเป็นช่วง High Season  นั่นเอง

โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 3 นับว่าเป็นช่วงพีกของกลุ่มโรงพยาบาล เพราะเข้าช่วงฤดูฝนซึ่งมักเกิดโรคระบาดที่ค่อนข้างมีความรุนแรง อย่างไข้หวัด และไข้เลือกออก เกิดขึ้นได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

ดังนั้นโรงพยาบาลถือเป็นสถานที่สำหรับให้บริการด้านสุขภาพให้กับผู้ป่วย ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูภาวะความเจ็บป่วย หรือโรคต่าง ๆ ทั้งทางร่างกายและจิตใจได้

ช่วงนี้ถือเป็นช่วงการเติบโตของกลุ่มโรงพยาบาล พร้อมกับช่วงผลักดันรายได้และกำไรสุทธิโตเป็นพิเศษ

ขณะเดียวกันช่วงดังกล่าวจึงค่อนข้างเห็นหุ้นโรงพยาบาลจากบทวิเคราะห์หยิบยกขึ้นมาแนะนำ อาทิ BCH,  CHG, EKH และ RJH เป็นต้น

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH มีการคาดการณ์ผลประกอบการจะเติบโตรับช่วง High Season เนื่องจากช่วงครึ่งหลังของปีเป็นช่วงฤดูฝนและโรคระบาด และการเติบโตต่อเนื่องของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ที่สามารถคงลูกค้าเก่าและเพิ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องผ่านทางสำนักงานตัวแทนและเอเจนซี ขณะที่รายได้ประกันสังคมและผู้ประกันตนก็จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการปรับปรุงและมีการขยายสาขาเพิ่ม

นอกจากนี้ในช่วงเดือนตุลาคมจะเปิดทำการโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง อย่างเป็นทางการหลังจากมีการปรับปรุง ซึ่งจะสามารถที่จะสร้างรายได้โดยทันที อีกทั้งยังมีโครงการคลินิกเด็กหลอดแก้ว (IVF) ที่จะเริ่มในไตรมาส 4 ปี 2561 และยังมีตลาดใหม่อย่างโครงการตรวจสุขภาพประจำปีของบุคลาการครูและบุคลากรทางการศึกษากับสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. กระทรวงศึกษาธิการ

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เอเอสแอล แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.10 บาท

บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG มีการคาดการณ์ผลประกอบการยังเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกจากปัจจัยฤดูกาล High Season ในช่วงไตรมาส 3 และจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ฐานปีก่อนยังไม่สูงเหมือนผู้เล่นรายอื่น ๆ และได้แรงหนุนจากปริมาณฝนที่ค่อนข้างมากในปีนี้ซึ่งมาพร้อมโรคระบาดและหนุนกลุ่มผู้ป่วยเงินสดให้มีโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่งจากงวดเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก

ประกอบกับยังได้ประโยชน์ต่อเนื่องจาก Operating Leverage หลังผ่านช่วงลงทุนใหญ่ไปแล้วในช่วง 2 ปีก่อน ทำให้กำไรปกติไตรมาส 3 ปี 2561 มีโอกาสที่จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินเบื้องต้นที่ราว 200 ล้านบาท โตกว่า 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.86 บาท พร้อมให้เป็นหุ้น Top Pick สำหรับโรงพยาบาลขนาดกลาง

บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH มีการคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 จะโตก้าวกระโดดจากไตรมาสก่อนจากอานิสงส์ของช่วง High Season พร้อมกับคาดว่าจะสามารถโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนแม้ว่าจะมีฐานที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากฝนที่มาเร็วและตกต่อเนื่อง ทำให้มีโรคระบาดค่อนข้างมากทั้งไข้หวัดใหญ่ รวมถึงโรคในเด็กเล็ก เช่น RSV ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางบริษัทมีความเชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) ที่มีลูกค้าเข้ามาให้บริการมากขึ้น โดยในช่วง 2 เดือนล่าสุด (ก.ค.-ส.ค. 2561) เริ่มเห็นผู้ใช้บริการเติบโตเร่งตัวขึ้นเป็นเฉลี่ยเดือนละราว 15-20 เคส ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่เฉลี่ยราว 10 เคสต่อเดือน ทำให้เริ่มผ่านจุดคุ้มทุนและสร้างกำไรเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงานในภาพรวมนอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาลที่เติบโตแข็งแกร่งอยู่แล้ว

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท พร้อมให้เป็น Top Pick สำหรับโรงพยาบาลขนาดเล็ก

บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH มีการคาดการณ์ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกและช่วงงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็น High season กอปรกับในปีนี้ฤดูฝนมาเร็วและนานกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งจะทำให้มีผู้ป่วยโดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออกเพิ่มมากขึ้น

ประกอบกับการขยายตลาด Check up ใหม่ ๆ เช่น การให้บริการตรวจสุขภาพนอกสถานที่ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ขณะเดียวกันมีการเพิ่มกำลังและศักยภาพการให้บริการ โดยได้มีการเพิ่มจำนวนเตียงในบริษัทแม่ไปแล้ว 12 เตียง และคาดจะเพิ่มอีกจำนวน 6 เตียงในบริษัทย่อยในช่วงเดือน ก.ย.นี้ รวมทั้งขยายศูนย์ไตเทียมเพิ่มอีก 16 ยูนิต ในช่วงต้น ธ.ค. 2561

นอกจากนี้การให้บริการในศูนย์แพทย์เฉพาะทาง อาทิ การผ่าตัดแผลเล็ก (Minimal invasive surgery: MIS) ได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมีจำนวนผู้เข้ารักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และตลอดจนการปรับขึ้นค่ายาและเวชภัณฑ์ในส่วนผู้ป่วยใน (IPD) อีกประมาณ 10% ตั้งแต่ต้นปี 2561 หากในกลุ่มลูกค้าประกันสังคม คาดจะมีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มต่อเนื่อง คาดสิ้นปี 2561 จะอยู่ที่ 1.80 แสนราย (จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.76 แสนราย)

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33 บาท

ประเด็นนำเสนอ 4 หุ้นโรงพยาบาลถือเป็นบริษัทที่น่าสนใจสุดในกลุ่มด้วยความเชื่อว่าจะได้รับอานิสงส์จากช่วงไฮซีซั่นแล้ว ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์ให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรได้อีก !!

Back to top button