หุ้นยุโรปปิดวานนี้ปรับขึ้นรับข้อมูลศก.สหรัฐแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มิ.ย.) ขานรับยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดลดแรงบวกในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากมีรายงานว่า การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้ได้ยุติลง โดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดวานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ 393 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,971.37 จุด เพิ่มขึ้น 36.46 จุด หรือ +0.74%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,332.78 จุด เพิ่มขึ้น 67.39 จุด หรือ +0.60% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,846.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.47 จุด หรือ +0.24%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับรายงานที่ว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.449 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มหันมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น หลังจากมีท่าทีระมัดระวังในช่วงต้นปี
อย่างไรก็ตาม ตลาดลดแรงบวกในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่า การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้ประสบทางตันอีกครั้งหนึ่งเมื่อวานนี้ หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่า ตัวแทนของ IMF ได้ยุติการเจรจาในกรุงบรัสเซลส์แล้ว และได้เดินทางกลับประเทศโดยทันที เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากกับทางกรีซ
หนังสือพิมพ์ Kathimerini ของกรีซ รายงานเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลกรีซได้เรียกร้องต่อเจ้าหนี้เพื่อขอขยายเวลาของโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในปัจจุบันออกไปอีก 9 เดือน จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดลงในเดือนนี้
นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ยังได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ CCC หรือระดับขยะ ซึ่งสะท้อนมุมมองที่ว่า รัฐบาลกรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ภายใน 12 เดือนข้างหน้านี้ หากกรีซไม่สามารถทำข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ได้
หุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นกรีซปิดทำการก่อนที่ IMF จะออกแถลงการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ หุ้นยูโรแบงก์-เออร์กาเซียส์ หุ้นพิเรอุส แบงก์ และหุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 16% หุ้นหลุยส์ วิตตอง พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบริษัท