STA ปิดพุ่ง15% มูลค่าซื้อขายทะลุ900ลบ. 2 โบรกฯเคาะเป้า 15.50 บ.รับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ

STA ปิดพุ่ง15% มูลค่าซื้อขายทะลุ900ลบ. 2 โบรกฯเคาะเป้า 15.50 บ.รับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ล่าสุดปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 14.90 บาท ปรับตัวขึ้น 1.90 บาท หรือ 14.62% สูงสุดที่ระดับ 15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 937.35 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 14.90 บาท ปรับตัวขึ้น 1.90 บาท หรือ 14.62% สูงสุดที่ระดับ 15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 937.35 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น STA ปรับตัวขึ้นแรงสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 15.20 บาท เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2561 ขณะที่มูลค่าซื้อขายในวันนี้สูงสุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน นับตั้งแต่มีมูลค่าซื้อขายสูงถึง 1.11 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2560

ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้น บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เป้าสูงสุด Consensus 15.5 บาท เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจจากเป็นผู้ผลิตขั้นกลาง (วัตถุดิบจากผลิตภัณฑ์ยาง) ไปสู่ผลิตภัณฑ์ขั้นปลายน้ำ (ถุงมือยาง) ในสัดส่วนที่มากขึ้น ช่วยลดความผันผวนของรายได้และเพิ่มมาร์จิ้นให้สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมองว่าตลาดยังไม่ให้ Value จากธุรกิจดังกล่าว จึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อ

ด้าน บล.เอเชีย เวลท์ แนะ”ซื้อ”หุ้น STA กำหนดราคาเป้าหมาย 15.50 บาท ในระยะปี 2561-2562 กลับมามุ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจถุงมือยางของ STA น่าจะเป็นกิจการที่ทำให้กลุ่มบริษัท STA มีกำไรที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากถุงมือยางมีการเติบโตของดีมานด์ที่ดีมาก คาดหวังว่าปีหน้ากำไรสุทธิจากธุรกิจถุงมือยางจะเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ของกำไรสุทธิทั้งหมดได้

ทั้งนี้ STA ปรับโครงสร้างธุรกิจหันไปสู่ธุรกิจถุงมือยางมากขึ้น โดย STA สามารถบริหารจัดการให้ธุรกิจหันมาอิงกับ Downstream Operations คือ ถุงมือยาง ทำให้ในช่วงปี 2561-2562 นี้ ความน่าสนใจของธุรกิจ STA อยู่ที่ธุรกิจถุงมือยาง จึงเชื่อว่าบริษัทยังทำกำไรจากธุรกิจถุงมือยางได้ดี ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำ

โดย ผลประกอบการของ STA ในงวดครึ่งปีแรกของปี 61 มีกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นกำไรสุทธิที่มาจากธุรกิจยางแปรรูป 60% และธุรกิจถุงมือยาง 40% ของกำไรทั้งหมด ในขณะที่สัดส่วนรายได้รวมของ STA มาจากยางแปรรูปมากถึง 85% และถุงมือยางเพียง 15% การที่ STA เพิ่มไลน์สินค้าถุงมือยางที่มีมาร์จิ้นดีกว่าธุรกิจดั้งเดิมคือยางแปรรูปนั้น ทำให้ทิศทางกำไรของ STA ดีขึ้น ไม่เผชิญกับความผันผวนของราคายางพารามากเหมือนช่วง 2 ปีก่อน โดย STA ได้เตรียมแผนการเพิ่มกำลังการผลิตถุงมือยางเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับเป้าหมายจะมีกำไรจากธุรกิจถุงมือยางเพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ของกำไรทั้งหมด และลดสัดส่วนกำไรจากธุรกิจแปรรูปยางจาก 60% เป็น 50%

Back to top button