1,750 ด่านต่อไป ?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องมานั่งนึกถึงคำถามแฟนคลับที่มีต่อข้อสงสัยเกี่ยวกับการทะยานขึ้นของดัชนีจะไปได้ไกลแค่ไหน ? เพราะช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ดัชนีไม่มีทีท่าจะวิ่งไปได้ไกลกว่าระดับ 1,730 จุดสักที บวกกับแรงซื้อของนักลงทุนมักออกอาการป้อแป้เมื่อทะยานขึ้นมาใกล้จุดดังกล่าวเป็นประจำ เลยทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่สดใสซาบซ่าอย่างที่ควรจะเป็นไงล่ะคะ

*วันนี้ถึงต้องถามตรง ๆ ว่า การที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิด 1,744.42 จุด บวกไป 26.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.96 หมื่นล้านบาท ยังเป็นจุดที่นักลงทุนกล้าเล่นไหม ? และประเด็นที่ทำให้คุณ ๆ ท่าน ๆ เหล่านั้นกล้าลุยแบบสุดซอยมาจากเรื่องอะไร ? รวมทั้งรูปแบบการซื้อหุ้นช่วงนี้ของนักลงทุนถนัดเล่นแบบไหน ? โดยทั้ง 3 ประเด็นที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังแบบคร่าว ๆ จะเป็นตัวบอกให้รู้ถึงทิศทางของตลาดหุ้นไทยจะเดินไปข้างหน้าอย่างไรเจ้าค่ะ

*เหมือนกับแรงซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นในกลุ่มบลูชิพช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เอาเข้าจริงก็เป็นการสลับตัวเล่นมากกว่าลงทุนถือหุ้นจริงจังในตัวใดตัวหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับสังเกตยอดเดิมของหุ้นแต่ละตัวมากเป็นพิเศษ เพราะตรงนั้นจะเป็นตัวบอกให้นักเล่นได้รู้ถึงความเสี่ยงในการกอดหุ้นได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเป็นการเตือนสติพวกแมงเม่ามือใหม่หัดเล่นได้อย่างฉมัง และยังทำให้รู้ด้วยว่า กระบวนการฝ่าแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,750 จุด น่าจะไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากหรอกนะคะ

*คล้ายกับกรณีของ PTT ทำท่าเหมือนหมดแรงข้าวต้มเมื่อขึ้นมายืนแถว 53 บาทเป็นประจำ จนบรรดากองเชียร์เกิดอาการเซ็งในอารมณ์กันเป็นแถว เพราะไม่มีวี่แววที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบ high เดิมที่บริเวณ 58 บาทได้ในเร็ว ๆ นี้ บรรดาแมงเม้าท์เลยคอมเมนต์กันกระจายห้องค้าว่า การขึ้นมาปิดที่ 52 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.31 พันล้านบาท มีสิทธิ์ซ้ำรอยเดิมสูงนะจะบอกให้

*ส่วนในรายของลีสซิ่งไฟแรงสูง SAWAD ทรุดตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 45.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 856 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการตีความมากกว่าการมองอนาคต ภาพของหุ้นถึงออกมาไม่ค่อยดีในหมู่คนที่มองโลกในแง่ร้าย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับแยกแยะประเด็นดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อจะได้มองการลงทุนในเที่ยวนี้เป็น “โอกาส” หรือ “อุปสรรค” นะจ๊ะ

*อาการน่าเป็นห่วงกว่าใครเพื่อนในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น GUNKUL เป็นรายถัดไปในทันที หลังแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า หมดลุ้น ! โดยเฉพาะโอกาสในการคัมแบ็กธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลม 60 เมกะวัตต์แทบจะไม่มีช่องให้ดิ้นหลุดเลย บรรดาผู้เล่นถึงกระหน่ำเทขายหุ้นตั้งแต่เช้าจรดเย็น วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ระดับ 2.82 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาทไงล่ะคะ

*ส่วนดาวดับที่ “มาไว เคลมไว” อย่างหุ้น CPT กลายเป็นอุทาหรณ์สอนใจพวกอ่อนหัดได้เป็นอย่างดี เพราะหลังจากหมดสตอรี่ปันผล 100% และการได้งานใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามา สถานการณ์ของหุ้นก็ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาดีดั่งเดิม ! ยิ่งมองในแง่ของราคาค่างวดช่วงต้นเดือน ส.ค. ยืนแถว 2.90 บาท เทียบกับราคาวานนี้ยืนปิดที่ 2 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.95% ยิ่งไม่จำเป็นต้องเข้าไปเฉียดใกล้เลยนะคะ

*เหมือนกับในรายของหุ้นร้อน GL ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงทั้งที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเกมขุดบ่อล่อปลาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง จึงไม่อยากจะเม้าท์มอยอะไรมากไปกว่านี้ (เจ็บคอ) เพราะแค่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.55 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท ก็ทำให้เห็นภาพดอยอินทนนท์ลอยมาแต่ไกลแล้วจ้า !

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่เล่นกันเป็นรอบขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนรำลึกไปดูหุ้นดาวเด่น IVL สักนิดหนึ่ง เพราะไซเคิลของหุ้นเรียงตัวแบบ W-Shape เป็นเวลานานถึง 4 เดือนครึ่ง แถมราคาสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้แถว 63 บาทยังไม่สามารถแหวกขึ้นไปได้สักที เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับขาลุยพิจารณาการขึ้นมาปิดที่ 59.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.90 พันล้านบาท ใช่จุดของการ follow buy หรือเปล่า ?

*เช่นเดียวกับในรายของ WHA ทะยานขึ้นมาปิดที่ 4.28 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.54 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการดีดตัวกลับขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณราคา 4.40 บาทได้เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นความท้าทายที่นักเล่นต้องตามกระแสให้ดี เพราะการเล่นเที่ยวนี้ออกได้ 2 หน้า ทั้งในส่วนของการ “ขึ้นต่อ” และ “ทรุดตัว” โดยขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้นว่าจะเป็นใจแค่ไหน..อิอิอิ