หุ้นขึ้นก่อนเลือกตั้ง ?
*ต้องบอกกันตามตรงว่า อารมณ์ของนักลงทุนตอนนี้เป็นไปตามข่าวการเลือกตั้งมากกว่าประเด็นอื่น ๆ ซึ่งเห็นได้จากวันที่ตลาดหุ้นไทยเขียวปี๋ มักมีข่าวเกี่ยวกับความชัดเจนในการเลือกตั้งเป็นประจำ บวกกับความคาดหวังอะไรหลายอย่างจะดีขึ้นหลังจากคนทั้งประเทศออกไปกากบาท จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน บรรยากาศการลงทุนเลยดูสดใสซาบซ่าไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ต้องบอกกันตามตรงว่า อารมณ์ของนักลงทุนตอนนี้เป็นไปตามข่าวการเลือกตั้งมากกว่าประเด็นอื่น ๆ ซึ่งเห็นได้จากวันที่ตลาดหุ้นไทยเขียวปี๋ มักมีข่าวเกี่ยวกับความชัดเจนในการเลือกตั้งเป็นประจำ บวกกับความคาดหวังอะไรหลายอย่างจะดีขึ้นหลังจากคนทั้งประเทศออกไปกากบาท จึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน บรรยากาศการลงทุนเลยดูสดใสซาบซ่าไงล่ะคะ
*วานนี้ถึงเห็นดัชนีขึ้นมายืนปิดเหนือแนวต้านสำคัญ 1,750 จุด (ขึ้นไปถึง 1,762.72 จุด +18จุด) ได้แบบชิว ๆ ในช่วงภาคเช้า ก่อนภาคบ่ายจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,749.80 จุด เหลือบวกแค่ 5.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.23 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องความเชื่อด้านบวกของผู้คนในตลาดหุ้น สถานการณ์หลายอย่างถึงออกมาดูดีกว่าที่เดี๊ยนคาดหวังไว้มาก จึงอยากเตือนแฟนคลับอย่าได้เผลอไผลกับแสงสีเขียว ๆ มากเกินไปนะจะบอกให้
*เนื่องจากรูปแบบที่ตลาดหุ้นไทยกระชากขึ้นแรง มันเป็นอารมณ์ร่วมที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะท้ายสุดต้องมาดูกันที่เรื่องของปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยอยู่ดี “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองหลับตา พร้อมกับจินตนาการไปพร้อมกันว่า ก่อนเลือกตั้งมีอะไรดีขึ้นเป็นรูปธรรมบ้าง ? และหลังเลือกตั้งมีอะไรที่ดีขึ้นไปกว่าเดิมอีกไหม ? หากมองว่า มีอะไรหลายอย่างที่ดีขึ้นจริง ๆ ก็ลุยไปเลยลูกพี่ !
*เหมือนกับในรายของ PTTEP หากมองเฉพาะในส่วนของ BV ที่ระดับ 97.50 บาท “โมนิก้า” ย่อมแนะนำให้แฟนคลับลุยสุดซอยแบบไม่เหนียมอาย เมื่อนำมาผนวกเข้ากับทิศทางของธุรกิจยังเติบโตไปได้เรื่อย ๆ ย่อมทำให้เห็นว่า การขึ้นมาปิดที่ 153 บาท บวกไป 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.52 พันล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะพอสมควรเลยทีเดียว..ตัวเองว่า จริงไหม ?
*คล้ายกับกรณีของ GULF มีแรงซื้อเข้ามาไม่ขาดสายในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา จนหุ้นวิ่งขึ้นมาใกล้กับยอดเก่าที่บริเวณ 77 บาท ก็เกิดจากข่าวกองทุนหวนเข้ามาไล่ราคาหุ้นอีกรอบ หลังเห็นทิศทางของธุรกิจยังโตได้อีก บวกกับสตอรี่ทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จึงน่าจะเป็นประโยชน์กับยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานตัวนี้เต็ม ๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 74.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.36 พันล้านบาทไงล่ะคะ
*เม้าท์ถึงเรื่องกองทุนซื้อขายหุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นค้าปลีกอย่าง CPALL เป็นรายถัดมาในทันที เพราะในช่วงที่หุ้นลงหนักเป็นเวลานานหลายเดือน ก็เกิดจากแรงเทขายของพวกกองทุนทั้งนั้น พอหุ้นทะยานอย่างร้อนแรงในรอบหลายเดือน จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 71 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.14 พันล้านบาท ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า เกิดจากพวกกองทุนตัวดีก็เท่านั้นเองจ้า !
*คล้ายกับกรณีของ PTG ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 13 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 10.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.93 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมเกิดอาการระแวงมากขึ้นกว่าปกติ เพราะที่ผ่านมาโดนกระทำชำเราอย่างหนักหน่วง จนหุ้นเสียศูนย์ชนิดที่หาทางกลับบ้านไม่เจอ จู่ ๆ วิ่งขึ้นแรงเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น (หลายครั้งหุ้นขึ้นแรง ต่อจากนั้นก็ร่วงลงทันที) ย่อมเกิดอาการตะขิดตะขวงใจเป็นธรรมดานะเธอ !
*เหมือนกับกรณีของหุ้นการเมือง STEC ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบแข็งแกร่ง บรรดาแมงลือเลยเม้าท์แบบไม่มีเหนียมอายในทันทีว่า มีวันนี้เพราะพี่เนให้ ! ซึ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์แมงเม่าได้เป็นอย่างดีในช่วงหนึ่ง แต่วานนี้หุ้นกลับสวนทางภาวะตลาดหุ้นที่เขียวขจี ด้วยการลงมายืนในแดนลบตั้งแต่หัววัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 24.60 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาท น้องโมตีความเรื่องนี้ไม่ถูกจริง ๆ นะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CENTEL เห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ปัจจัยพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะ ตัวเลขสำคัญหลายส่วนไม่โอเวอร์เหมือนหุ้นบางตัว แต่ราคาหุ้นกลับปักหัวลงลูกเดียวแบบไม่ลืมหูลืมตา “โมนิก้า” มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ไม่สมเหตุสมผลทั้งนั้น แต่รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 42 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 890 ล้านบาท เพราะพวกนกรู้เขาให้ราคาฐานไว้ที่ระดับ 45 บาทนะซี
*ส่วนหุ้นที่นักเล่นให้ราคาแบบเต็มแม็กไปแล้วอย่าง HMPRO น่าจะเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ ในสายตาของ “โมนิก้า” เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 15.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท มันเป็นการเทรดบนค่า P/E 38 เท่าเชียวน่า ! ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินไปในสายตานักเล่นบางกลุ่ม บวกกับเดี๊ยนไม่ชอบเสี่ยงในเรื่องที่รู้อยู่เต็มอกตูม ๆ อยู่แล้ว จึงขอยืนดูนอกเวทีแล้วกันค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ THANI ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.50 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 4.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 375 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่มีลุ้นไปต่อได้อีกเยอะเลยทีเดียว หลังตัวเลขกำไรโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส บวกกับเที่ยวนี้หุ้นยังเทรดบนค่า P/E 17 เท่า จึงเป็นจังหวะของการ follow buy แบบไม่มีข้อกังขาอะไรทั้งสิ้น..หรือใครมีปัญหาจะกริ๊งกร๊างมาคุยเป็นการส่วนตัวก็ได้นะจ๊ะ