SABINAดิ่ง16%หลังผถห.ใหญ่เฉือนขายบิ๊กล็อต100ล้านหุ้นต่ำกว่ากระดานเปิดทางกองทุนเข้าถือ29%
SABINA ดิ่ง 16% หลัง ผถห.ใหญ่เฉือนขายบิ๊กล็อต 100 ล้านหุ้นต่ำกว่ากระดาน 27% เปิดทางกองทุนเข้าถือ 29%
บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ระบุว่า บริษัทได้รับแจ้งจาก นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทว่าได้ดำเนินการขายหุ้นสามัญเดิมในบริษัทของตนในวันที่ 20 กันยายน 2561 โดยนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ ได้ขายหุ้นในจำนวน 100,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 28.78 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท แก่นักลงทุนสถาบันในประเทศและจากต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนบุคคลรายใหญ่
โดยเป็นการขายให้แก่ผู้ลงทุนในวงจำกัดแบบข้ามคืน (Overnight Global Bookbuilding Transaction) ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ราคา 25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารายการเท่ากับ 2,500 ล้านบาท โดยราคาขายดังกล่าว กำหนดโดยวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Bookbuilding) กับผู้ลงทุนประเภทสถาบัน
ทั้งนี้ภายหลังการขายในครั้งนี้ นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ จะคงเหลือสัดส่วนการถือหุ้นใน SABINA จำนวนร้อยละ 45.81 จากเดิมร้อยละ 74.59และเมื่อรวมกับการถือหุ้นของกลุ่ม จะทำให้นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ และครอบครัวจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันสิ้นเท่ากับร้อยละ 51.86 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท
อีกทั้งนายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ จะยังคงเป็นประธานกรรมการบริษัท และเป็นผู้ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงานของบริษัทร่วมกับกรรมการรายอื่น ๆ ดังเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ กล่าวถึงเหตุผลในการขายหุ้นครั้งนี้ว่า เพื่อเพิ่มสัดส่วนหุ้นที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ (Free Float) เสริมสร้างสภาพคล่องของหุ้น รวมถึงเพิ่มสัดส่วนของนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพของราคาหุ้น SABINA ในตลาดรอง
โดยในช่วงที่ผ่านมาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ได้มีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุน (Roadshow) พบว่ามีนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแสดงความสนใจที่จะลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากชื่นชมนโยบายการบริหารงานที่มีความคล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่มีความผันผวน รวมถึงความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้สามารถสร้างการเติบโตทั้งรายได้และความสามารถในการทำกำไรในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนดังกล่าวมีข้อจำกัดในการลงทุนในหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านสภาพคล่องและหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก จึงสอบถามมาทั้งทางบริษัทฯ และทางตนเองเกี่ยวกับแนวทางที่จะปรับปรุงเรื่องดังกล่าว
“ส่วนตัวผมไม่ได้มีความจำเป็นและไม่ได้อยากจะขายหุ้น แต่ได้รับการติดต่อมาจากนักลงทุนสถาบันหลายรายที่สนใจลงทุนในหุ้น SABINA ซึ่งทุกรายพูดถึงปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และการผันผวนของราคาหุ้น เนื่องจากเดิมเราไม่มีฐานนักลงทุนสถาบันเลย การที่ผมตัดสินใจขายหุ้นในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อราคาหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกคนในระยะยาว นักลงทุนที่ลงทุนในครั้งนี้ส่วนมากก็เป็นกองทุนชั้นนำของประเทศ รวมถึงกองทุนระดับโลก เช่น กองทุน Templeton และ Capital Group เป็นต้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีในเรื่องของสภาพคล่องและจะช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น เพราะเราจะมีฐานนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพในสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นมาก ซึ่งจะส่งผลให้เสถียรภาพของราคาหุ้นดีขึ้น” นายวิโรจน์ กล่าว
สำหรับการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เป็นการเสนอขายให้แก่นักลงทุนในวงจำกัด (Private Placement) ด้วยวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์และประมูลราคากับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบข้ามคืน (Overnight Global Bookbuilding) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น โดยได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างสูงจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสัดส่วนหุ้นที่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ (Free Float) ของบริษัทฯ จะเพิ่มจากเดิม ร้อยละ 19.4 เป็นร้อยละ 48.14
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 1-5 ของ SABINA มีดังนี้
ลำดับ | ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ | จำนวนหุ้น (หุ้น) | % หุ้น |
---|---|---|---|
1. | นายวิโรจน์ ธนาลงกรณ์ | 259,207,000 | 74.59 |
2. | นางวรรณี ทองลักษณ์ | 14,001,000 | 4.03 |
3. | นายอนุรักษ์ ตั้งคารวคุณ | 12,817,500 | 3.69 |
4. | น.ส.พิชชา ธนาลงกรณ์ | 10,501,000 | 3.02 |
5. | นายอัชดา ธนาลงกรณ์ | 10,501,000 | 3.02 |
(ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 21/08/2561)
ด้านราคาหุ้น SABINA ล่าสุด ณ เวลา 10.11 น. อยู่ที่ระดับ 28.75 บาท ปรับตัวลดลง 5.50 บาท หรือ 16.06% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.66 พันล้านบาท ภายหลังจากมีรายการบิ๊กล็อตหุ้น SABINA จำนวน 58 รายการ จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,500 ล้านบาท ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 25 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาบนกระดานซื้อขาย ซึ่งวานนี้ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 34.25 บาท ซึ่งถือเป็นการขายหุ้นต่ำกว่ากระดานซื้อขายวานนี้ถึง 27%