Trend Spotter(PM) – บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี
Morning Market Summary SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,744.82 …
Morning Market Summary
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,744.82 จุด ลดลง 5.11 จุด (-0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 23,978.59 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคหลังเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้า และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน บ้านเราช่วงเช้ามีแรงขายนำจากกลุ่มพลังงาน และค้าปลีก ขณะที่มีแรงหนุนจากกลุ่มไฟแนนซ์ และโรงพยาบาล
Afternoon Perspective
แนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดจะคงไม่ดีขึ้น คือยังมีสิทธิแกว่งตัวลง แต่อาจดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นได้ เพื่อไปรอลุ้นการรีบาวด์ของดัชนีในภูมิภาค ทิศทางตลาดคาดยังคงไร้ทิศทาง ซึ่งต้องไปรอลุ้นทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันว่าจะเป็นอย่างไรหลัง FED ขึ้นดอกเบี้ย กลุ่มที่มองว่าความเสี่ยงน่าจะน้อยลงเมื่อเทียบกลุ่มอื่น คือ กลุ่มอสังหาฯ (สร้างบ้าน) หลังราคาหุ้นกลุ่มสร้างบ้านลงไป 4-5% จากการออกมาตรการคุมเข้มของ ธปท. ขณะที่กลุ่มอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่มีประเด็นในการเล่นดังนั้นช่วงบ่ายคาดดัชนียังมีสิทธิกระเตื้องขึ้นได้บ้างสลับแรงขายทำกำไร กรอบรับภาคบ่ายมองที่ 1740-1738 จุดและแนวต้านที่ 1748-1752 จุด แนะนำ เล่นเก็งกำไร TRUE LPN และ SPALI
Technical Pick
SET Index: ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1740 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ในขณะที่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1795-1800 จุดหลังจากทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1730-1740 จุดขึ้นมาได้ ทำให้การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1740 และ 1730 จุดควรใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นเพื่อคาดหวังการดีดกลับที่แนวรับสำคัญ
– Precious Shipping (PSL TB; THB 12.90) – ซื้อ
– Singha Estate (S TB; THB 3.62) – ซื้อ
– Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : OCEAN* (*ดูรายละเอียดและเงื่อนไขในบทวิเคราะห์)