เทวดาตกสวรรค์
ไปเสียแล้วอย่างฉับไว เหมือนกับขามา สำหรับ เอลอน มัสก์ การลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ Tesla Inc. เหลือไว้แต่ตำแหน่งซีอีโอ ภายในเวลา 45 วันนับจากประกาศ และต้องจ่ายค่าปรับอีก 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นทางเลือกที่ “ตัดขาดทุน” ที่มีเป้าหมายเพื่อบรรลุข้อตกลงกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เพื่อให้ยุติคดีความอื่นทั้งหมด
พลวัตปี 2018 : วิษณุ โชลิตกุล
ไปเสียแล้วอย่างฉับไว เหมือนกับขามา สำหรับ เอลอน มัสก์ การลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ Tesla Inc. เหลือไว้แต่ตำแหน่งซีอีโอ ภายในเวลา 45 วันนับจากประกาศ และต้องจ่ายค่าปรับอีก 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นทางเลือกที่ “ตัดขาดทุน” ที่มีเป้าหมายเพื่อบรรลุข้อตกลงกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เพื่อให้ยุติคดีความอื่นทั้งหมด
แม้ในข้อตกลงจะได้ระบุเงื่อนไขว่า มัสก์ จะยังเป็นซีอีโอของ Tesla Inc. แต่ต้องลงจากตำแหน่งประธานบริษัทภายในเวลา 3 ปี นับจากวันที่ประกาศ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วโอกาสที่จะต้องออกก่อนกำหนด มีความเป็นไปได้สูงมาก
เหตุผลเพราะตามกติกาแล้ว มัสก์ได้กระทำความผิด “สำเร็จแล้ว” ถือตามหลักกฎหมายคือ เป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่มีทางถูกละเว้นโทษได้ เพราะคนควบคุมกฎจะถูกข้อหา “ละเว้นไม่กระทำตามหน้าที่” ได้
ความผิดสำคัญของมัสก์ คือการที่เขาทวีตข้อความส่งผลให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับหุ้นของเทสลา ที่ระบุว่า กำลังพิจารณานำเทสลาออกจากตลาดหุ้น พร้อมกับยืนยันว่าได้หาแหล่งเงินทุนในการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 420 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นเรียบร้อยแล้ว
วันที่ 7 สิงหาคม มัสก์ก็ก่อเรื่องใหญ่ขึ้นเมื่อทวีตว่า เขากำลังพิจารณาที่จะนำ Tesla ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดฯ ที่ระดับราคา 420 ดอลลาร์ ซึ่งขณะที่มีการระงับการซื้อขายหุ้น ราคาหุ้นเทสลาอยู่ที่ระดับ 367 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ราคาหุ้น Tesla ได้พุ่งขึ้นจากรายงานข่าวที่ว่า กองทุนบริหารความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ได้เข้าซื้อหุ้นเทสลาจำนวน 3-5% คิดเป็นวงเงิน 1.9-3.1 พันล้านดอลลาร์
มัสก์ระบุว่า เขาจะใช้วิธีการซื้อหุ้นคืน หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ด้วยการกู้เงินมาซื้อ หรือที่เรียกว่า LBO ซึ่งราคาหุ้นที่จะรับซื้อคืนที่ 420 ดอลลาร์ เป็นราคาพรีเมียมที่นักลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ชัดเจนระหว่าง 20-25% ซึ่ง ณ ระดับราคานี้ มาร์เก็ตแคปของ Tesla จะพุ่งแตะ 71,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น มัสก์ยังระบุไว้ในบล็อกออนไลน์ว่า กลุ่มทุนซาอุฯ ได้พยายามผลักดันให้เทสลาถอนตัวออกจากตลาดหุ้นอย่างเต็มตัวมาระยะหนึ่งแล้ว และมีผู้เสนอเงินทุนสำหรับการดำเนินกิจการต่อไปโดยไม่ต้องเป็นบริษัทมหาชนแล้ว
แล้วก็เป็นเรื่องปกติที่ ทางกลุ่มทุนซาอุดีอาระเบีย ดังกล่าวมิได้ให้ความเห็นใด ๆ ต่อข้อความที่มัสก์ระบุในบล็อกนั้น
มาร์เก็ตแคปดังกล่าว จะทำให้การทำเทนเดอร์เพื่อนำหลักทรัพย์ Tesla ออกจากการจดทะเบียนในตลาดหุ้น สร้างสถิติใหม่ที่มูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์
การประกาศดังกล่าวเข้าข่ายอาจมีความผิดในการสร้างราคาได้ จนตลาดหุ้นนิวยอร์ก ประกาศพักการซื้อขายหุ้น Tesla ชั่วคราว
การกระทำที่มีผลต่อราคาหุ้นของมัสก์ ทิ้งการบ้านให้กับหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของสหรัฐฯ หรือ SEC ที่เคยและยังมีระเบียบอนุญาตให้บริษัทในตลาด ประกาศข่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ของบริษัทหรือผู้ที่เป็นตัวแทนได้ แต่ทางบริษัทจะต้องแจ้งกับนักลงทุนล่วงหน้าว่าช่องทางดังกล่าวจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเผยแพร่ข่าวสำคัญของทางบริษัท พร้อมกับต้องเผยแพร่ข้อมูลนั้นผ่านช่องทางที่สาธารณะสามารถเข้าถึงได้กว้างขวางกว่า ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับมัสก์ หรือไม่
มัสก์คงรู้ตัวแล้วว่าการกระทำโจ๋งครึ่มแบบงี่เง่า เป็นความผิดพลาดมหันต์ เพราะมีสิทธิ์สูงมากที่หน่วยงานซึ่งที่กำกับดูแลตลาดทุน ตีความถือว่าการกระทำนั้นผิดปกติมาก ๆ ทำให้ต่อมามัสก์ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงพนักงานว่า การออกมาพูดว่าต้องการเปลี่ยน Tesla เป็นบริษัทเอกชน (จากปัจจุบันเป็นบริษัทมหาชน) นั้นยังไม่ได้มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ส่วนที่เขาคิดจะทำแบบนี้ก็เป็นเพราะการเป็นบริษัทมหาชนมีผลทำให้คนทำงานเสียสมาธิ และความเป็นมหาชนก็อาจมีส่วนทำให้นักเก็งกำไรหาเรื่องโจมตีบริษัท
มัสก์ระบุเสมือนพาซื่อว่า บริษัทมหาชนต้องเผชิญกับราคาหุ้นที่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนที่ทำงานที่ Tesla ซึ่งล้วนเป็นผู้ถือหุ้นรู้สึกหวั่นไหว และยังต้องเจอกับวัฏจักรของการรายงานงบการเงินรายไตรมาสซึ่งเพิ่มแรงกดดันที่จะต้องตัดสินใจให้ถูกต้องทุกไตรมาส ซึ่งอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องในระยะยาว ที่ร้ายสุดคือ อาจต้องเป็นเป้าของคนจำนวนมากที่มีแรงจูงใจในการโจมตีบริษัท
พูดง่าย ๆ ว่าอยากได้เงินของชาวบ้านมาต่อยอดสร้างอนาคต แต่ไม่อยากรับฟังเสียงเจ้าของเงิน
จากนั้น มัสก์ก็ยก SpaceX อีกบริษัทของเขา ว่าเป็นตัวอย่างของการทำงานวางแผนเพื่ออนาคตซึ่งสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีกว่า เนื่องจากมันเป็นบริษัทเอกชน
ก่อนถูกเล่นงานไม่กี่วัน มัสก์กลับเปลี่ยนท่าทีใหม่ บอกว่าเขากำลังเจรจากับกลุ่มผู้สนับสนุนบางรายเรื่องการเข้าซื้อกิจการบางส่วนของ Tesla ซึ่งรวมถึงกลุ่มทุนของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย Public Investment Fund (PIF) ของรัฐบาลซาอุฯ ที่มักลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ แล้วสุดท้ายกลายเป็น “สำรวยลืมคำ” เมื่อเขาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์อีกว่า เลิกคิดที่จะทำเทนเดอร์เพื่อออกจากตลาดแล้ว
ผลลัพธ์คือหุ้น Tesla Inc. ร่วงแรงในวันที่ตลาดแนสแด็กทำออลไทม์ไฮ
แล้วในที่สุดก็เป็นไปตามคาด ทางด้าน SEC ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากดำเนินการกล่าวโทษกับมัสก์ด้วยข้อกล่าวหาที่ลงเอยด้วยการทำให้เก้าอี้ประธานกรรมการต้องหลุดลอย และเก้าอี้ซีอีโอต้องสั่นคลอน
เอลอน มัสก์กลายเป็น “เทวดาตกสวรรค์” ด้วยการกระทำแบบโง่ถึงระดับไร้เดียงสา หลังจากที่เขาพาตัวเองขึ้นเป็นดาวรุ่งคนล่าสุดของชมรมเศรษฐีใหม่อเมริกัน ถือหุ้นใหญ่รถยนต์ไฟฟ้า บริษัท Tesla Inc. ด้วยความอัจฉริยะว่าด้วยสตอรี่ “แห่งอนาคต” ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (ซึ่งมีคนพยายามบอกว่า มันเป็นมากกว่ารถยนต์) แล้วแต่งตัวเข้าระดมทุนในตลาดแนสแด็กของนิวยอร์ก และทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในยุค “ฟองสบู่ดอทคอม” นั่นคือราคาหุ้นวิ่งเตลิดเปิดเปิง สวนทางกับความสามารถทำกำไรของบริษัท (ที่ตั้งแต่ก่อตั้งมา ไม่เคยมีกำไรเลย แม้การขาดทุนสุทธิในแต่ละปีลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งยังสามารถรักษากำไรขั้นต้นเอาไว้ได้ตลอดมา ก็ยังไม่ทำให้อนาคตมืดมนแต่อย่างใด นักลงทุนที่ติดหุ้นหรือถือหุ้น Tesla Inc.) ซึ่งมีตัวเลขขาดทุนสะสมบานเบอะ
มัสก์อายุยังไม่มากก็น้อย โอกาสกลับมามีเสมอ แต่อาจจะนานพอสมควร