CKPคาดรายได้ปีนี้โต15%รับกำลังผลิตไฟฟ้าเขื่อนน้ำงึมพุ่ง-รับรู้รายได้บางปะอินโคเจนเต็มปี

CKP คาดรายได้ปีนี้โต 15% รับกำลังผลิตไฟฟ้าเขื่อนน้ำงึมพุ่ง-รับรู้รายได้รฟฟ.บางปะอินโคเจนเต็มปี


นางมัณฑนา เอื้อกิจขจร รองกรรมการผู้จัดการ งานวางแผนธุรกิจ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยกับว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/61 จะเติบโตกว่าในไตรมาส 3/60 และดีกว่าไตรมาส 2/61 เนื่องจากในช่วงนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนน้ำงึม 2 มีจำนวนมากทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น

โดยบริษัทปรับประมาณการรายได้ในปีนี้เป็น 15% จากเดิมคาดรายได้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 6.96 พันล้านบาท และมั่นใจว่ากำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 159 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม บางปะอินโคเจนเนอเรชั่น (BIG2)

“ปีนี้ ของเราเติบโตมาก หลักๆมาจากน้ำงึม 2 ที่น้ำเยอะมาก เราปรับเป้ารายได้โต 15% จากก่อนหน้านี้ตั้งเป้าโต 10% นอกจากนี้ BIG2 เราก็รับรู้เต็มปี” นางมัณฑนา กล่าว

ทั้งนี้ CKP ถือหุ้นในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น (โครงการ 1) กำลังการผลิต 117.5 เมกะวัตต์ และ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น (โครงการ 2) สัดส่วน 65% ในแต่ละบริษัท  ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำงึม 2 ที่บริหารภายใต้บริษัท เซาท์อีสท์ เอเซีย เอนเนอจี จำกัดนั้น CKP ถือหุ้น 56% ขนาดกำลังการผลิต 615 เมกะวัตต์

สำหรับโรงไฟฟ้าน้ำไซยะบุรีที่มีกำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ภายใต้การบริหารบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด CKP ถือหุ้น 37.5% นั้น บริษัทยังคงแผนเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือน ต.ค. 62 โดยในไตรมาส 4 ปีนี้จะเริ่มทดลองเดินเครื่อง Commissioning unit 1

ส่วนกรณีที่ราคาหุ้น CKP ปรับตัวสูงสุดที่ 5.45 บาท เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นางมัณฑนา กล่าวว่า ถือว่าเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยวานนี้ราคา CKP ย่อลงมาอยู่ที่ 5.25 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก

Back to top button