สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 5 ต.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นแอปเปิล อันเนื่องมาจากความตื่นตระหนกต่อรายงานข่าวที่ว่า จีนแอบฝังชิปคอมพิวเตอร์ในเซิร์ฟเวอร์บริษัทสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,447.05 จุด ร่วงลง 180.43 จุด หรือ -0.68% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,788.45 จุด ลดลง 91.06 จุด หรือ -1.16% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,885.57 จุด ลดลง 16.04 จุด หรือ -0.55%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงทั้งสิ้น 0.04% ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.98% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า รัฐบาลจีนแอบฝังชิปคอมพิวเตอร์ในเซิร์ฟเวอร์บริษัทสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.9% ปิดที่ 376.41 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,111.90 จุด ลดลง 132.24 จุด, -1.08% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,359.36 จุด ลดลง 51.48 จุด หรือ -0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,318.54 จุด ลดลง 99.80 จุด หรือ -1.35%
–ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรปที่พากันร่วงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,318.54 จุด ลดลง 99.80 จุด หรือ -1.35%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,205.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นโดยรวม 0.8%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.9 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 14.649 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 824.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.60 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1057.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.) โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว จากการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐ รวมทั้งรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ขยับขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ระดับ 74.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 42 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 84.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 1.5% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.7%
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (5 ต.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนส.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 113.73 เยน จากระดับ 113.86 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9913 ฟรังก์ จากระดับ 0.9915 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2938 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2923 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1525 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1513 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3109 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3023 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง แตะที่ระดับ 0.7051 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7074 ดอลลาร์สหรัฐ