STA บวกกว่า 4% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 21 บ. ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์
STA บวกกว่า 4% โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" เป้า 21 บ. ลุ้นผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ โดยปิดตลาดภาคเช้า ราคาอยู่ที่ 16.90 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 4.32% สูงสุดที่ 17 บาท ต่ำสุดที่ 16.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 247.34 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 16.90 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 4.32% สูงสุดที่ 17 บาท ต่ำสุดที่ 16.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 247.34 ล้านบาท
ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (1 ต.ค.) แนะนำ “ซื้อ” STA ราคาเป้าหมาย 21 บาท/หุ้น โดย STA รุกสู่ธุรกิจถุงมือยาง โดยจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตถุงมือยางที่โรงงานหาดใหญ่เพิ่ม 1.5 พันล้านชิ้นต่อปี และโรงงานที่สุราษฎร์ฯอีก 1.7 พันล้านชิ้นต่อปี รวมกำลังการผลิตเพิ่ม 3.2 พันล้านชิ้นต่อปี ทำให้กำลังการผลิตรวมของถุงมือยางเพิ่มจากสิ้นปีก่อนที่ 14 พันล้านชิ้นต่อปี เป็น 17.2 พันล้านชิ้นต่อปีในปี 2561 (เพิ่มขึ้น 21%)
นอกจากนี้ STA มีแผนการรวมบริษัทลูก Sri Trang Gloves-Thailand (STGT) เข้ากับบริษัทไทยกง Thaikong Co., Ltd. (TKG) ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่มีเทคโนโลยีและความเร็วในการผลิตสูง ด้วยกำลังการผลิต 4 พันล้านชิ้นต่อปี คาดว่าดีลจะสำเร็จประมาณ เม.ย.2562 และจะให้กำลังการผลิตเพิ่มอีกเป็น 21.2 พันล้านชิ้นต่อปี (เพิ่มขึ้น 23%) แต่จะรับรู้ตามสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจถุงมือยางของกลุ่ม STA ที่ 81%
ทั้งนี้มาร์จิ้นของธุรกิจถุงมือยางอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 22% สูงกว่าธุรกิจยางต้นน้ำและกลางน้ำเดิม จึงคาดว่า อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจากเดิมประมาณ 5-9% มาอยู่ในระดับ 9%-10% ในปี 2561-2562 นอกจากนี้ การเข้าสู่ธุรกิจถุงมือยางซึ่งเติบโต 8-10% ต่อปีจะทำให้ลดความผันผวนของ STA จากราคายางพาราด้วย
อย่างไรก็ดี STA เตรียมขยายธุรกิจกลางน้ำด้วยการเปิดโรงงานใหม่ที่สกลนคร ขนาดกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี รวมถึงจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำยางข้น (Latex) ขนาด 130,000 ตันต่อปี เพื่อเป็นวัตถุดิบรองรับการขยายตัวของถุงมือยางธุรกิจปลายน้ำ
ขณะที่ คาดว่า STA จะทำการผลิตถุงมือยางที่ 15.5 พันล้านชิ้นในปี 2561 จากปี 2560 ที่ 13.2 พันล้านชิ้นและจะเพิ่มเป็น 20.5 พันล้านชิ้นในปี 2562 คาดว่า STA จะมีผลประกอบการที่พลิกฟื้นตัวขึ้น จากขาดทุนที่ 1.4 พันล้านบาท ในปี 2560 เป็นกำไร 2.0 พันล้านบาทในปี 2561 และ 2.7 พันล้านบาทในปี 2562
โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 21.00 บาท อิง PER ปี 2562 ที่ 11.5x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 9 ปี โดยมองว่า STA ได้พลิกฟื้นแม้ว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นมา แต่ในปีหน้าจะได้ดีลกับ TKG ซึ่งจะทำให้ PER ปี 2562 ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 9x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและจะได้ประโยชน์จากธุรกิจปลายน้ำที่มีการเติบโตสูง และจะลดความผันผวนและผลกระทบจากธุรกิจยางพาราลง