GPSC ดีนะ..ที่เสียโอกาส.!?
ดีลล่ม.!ไปแล้ว..เมื่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เพราะดีลดังกล่าว ส่งผลต่อการลดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน “ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550”
สำนักข่าวรัชดา
ดีลล่ม.!ไปแล้ว..เมื่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อนุมัติคำขอเพื่อรวมกิจการ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW ของบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เพราะดีลดังกล่าว ส่งผลต่อการลดการแข่งขันในการให้บริการพลังงาน “ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550”
คำถามเกิดขึ้นมาทันทีว่า..นี่คือ “ข่าวร้าย” หรือ “ข่าวดี” ของ GPSC ที่ต้องเสียโอกาสกับดีลนี้หรือไม่อย่างไร..!?
สิ่งแรกคือความฝันแรกที่ GPSC จะมีรายได้และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด จากกำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 4,425 เมกะวัตต์ (หากซื้อ GLOW สำเร็จนะ.!) จากปัจจุบัน GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,530 เมกะวัตต์ คิดกันง่าย ๆ GLOW มีรายได้เฉลี่ยปีละ 50,000 ล้านบาท กำไรเฉลี่ยปีละ 9,000 ล้านบาท ขณะที่ GPSC มีรายได้เฉลี่ยปีละ 22,000 ล้านบาท และกำไรเฉลี่ยปีละ 3,200 ล้านบาท คิดดูละกัน GPSC จะเติบโตขนาดไหน..แต่ฝันนั้นไม่เป็นจริงซะแล้ว..!!?
อีกความฝัน นั่นคือการผสานประโยชน์ (Synergy) ในการบริหารโรงไฟฟ้าและโครงข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่อง จากโรงไฟฟ้าและโครงข่ายของ GPSC และ GLOW อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ทำให้บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น..แต่เมื่อดีลล่ม!..ฝันจึงต้องค้างกันไป..!!??
แต่..การเสียโอกาส..อาจเป็นเรื่องดีต่อ GPSC และผู้ถือหุ้นที่ไม่ต้องแบกรับหนี้ระยะสั้นกว่า 140,000 ล้านบาท และจากที่ต้องแบกรับภาระเพิ่มทุนอีก 70,000 ล้านบาท เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ระยะสั้นดังกล่าว ในแง่ผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องกันสำรองเงินกันไว้มากโขทีเดียว เพื่อซื้อหุ้นเพิ่มทุน..มิเช่นนั้นต้องเกิดไดลูชั่นเอฟเฟกต์กันไป
นี่ยังไม่รวมความเสี่ยงเรื่องโรงไฟฟ้า GLOW ที่ได้มา ดูเหมือนเหลืออายุสัญญาอีกไม่กี่ปี มิหนำซ้ำมีอยู่โรงหนึ่ง..หมดสัญญาไปแล้ว..แต่ยัง “ขายไฟไปพรางก่อน” มีความเสี่ยงว่าจะขายได้อีกนานเท่าใด.!?
ส่วนที่เม้าท์กันแซดว่า “ค่ามัดจำโดนยึด.!?” เรื่องนี้ “สุรงค์ บูลกุล” ประธานบอร์ด GPSC นั่งยันยืนยันว่า “ไม่มีการจ่ายเงินมัดจำใด ๆ ให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ GLOW แม้แต่บาทเดียว” ส่วนที่กู้ยืมจาก PTT-PTTGC จำนวน 35,000 ล้านบาท ยังไม่ได้นำมาใช้เลยสักบาทเดียวเช่นกัน..เพราะดีลซื้อขายหุ้น GLOW ยังไม่เกิดขึ้น
เอาเป็นว่า..ดีลล่ม! ดูเหมือน GPSC เสียโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด!!..แต่ก็ไม่ต้องแบกภาระหนี้ 140,000 ล้านบาท ที่สำคัญ GPSC มีโอกาสเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป กับการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 250 เมกะวัตต์ ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติและไอน้ำ 400 เมกะวัตต์ ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ GPSC ด้วยกันทั้งคู่..!?
นี่ยังไม่รวม “ธุรกิจกักเก็บพลังงาน” ธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต..สรุป “ดีลล่ม” ดูเป็นเรื่องดีกับ GPSC มากกว่านะ..!?
…อิ อิ อิ…