MILL เล็งทุ่ม 700 ลบ.ถือหุ้นโซลาร์ฟาร์ม เล็งหาประโยชน์ที่ดินระยอง 480 ไร่

MILL เล็งทุ่ม 700 ลบ.ถือหุ้นโซลาร์ฟาร์ม เล็งหาประโยชน์ที่ดินระยอง 480 ไร่


นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าถือหุ้นในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศ ขนาดกำลังผลิต 22.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 700 ล้านบาทเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 30-40% แหล่งเงินทุนจะมาจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ครั้งล่าสุด

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการจัดการกับที่ดินเปล่าในมือที่มีอยู่ 480 ไร่ในจังหวัดระยองเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคาดว่าจะสามารถสรุปรูปแบบการจัดการได้ภายในปีนี้ จากทั้งทางเลือกในการนำมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ การร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อตั้งโรงงานใหม่ หรืออาจขายที่ดินเปล่าออกไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าที่ดินด้วย

นายสิทธิชัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด 594.87 ล้านบาททั้งหมดในปีนี้ โดยจะใช้กำไรจากผลการดำเนินงาน และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากกำไรจากการจำหน่ายหุ้นของบริษัท มิลล์คอนสเปเชี่ยลสตีล จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยให้กับบริษัท โกเบ สตีล จำกัด ผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ธุรกิจเป็นผู้ผลิตเหล็กและเหล็กลวดเกรดพิเศษ เบื้องต้นคาดจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 50%

ขณะที่บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท และผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไรได้แน่นอน จากปีก่อนที่มีรายได้ 10,489 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 129.70 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 1/58 บริษัทเริ่มมีกำไรแล้ว และแนวโน้มไตรมาส 2/58 คาดว่ายังมีกำไรแม้ว่า รายได้และกำไรสุทธิอาจจะต่ำกว่าไตรมาส 1/58 ที่มีรายได้ 2,944 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 129.70 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2 มีวันหยุดค่อนข้างมาก ประกอบกับเป็นช่วงที่บริษัทฯ สามารถจำหน่ายเหล็กได้น้อย

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นฤดูกาลขายเหล็ก ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอส่ง (Backlog) อยู่ในมือราว 1 แสนตัน ซึ่งจะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้

ปัจจุบัน บริษัท มีสัดส่วนการขายเหล็กเส้นปกติอยู่กว่า 70% คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนจะลดลงเหลือ 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้หลักจะมาจากเหล็กที่แปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้าง และเหล็กที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อที่ในอนาคตจะทำให้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องราคาเหล็กผันผวน

Back to top button