สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 15 ต.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ และสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,250.55 จุด ลดลง 89.44 จุด หรือ -0.35% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,430.74 จุด ลดลง 66.15 จุด หรือ -0.88% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,750.79 จุด ลดลง 16.34 จุด หรือ -0.59%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้ถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 359.31 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,614.16 จุด เพิ่มขึ้น 90.35 จุด หรือ +0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,029.22 จุด เพิ่มขึ้น 33.31 จุด หรือ +0.48% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,095.07 จุด ลดลง 0.90 จุด หรือ -0.02%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างอังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,029.22 จุด เพิ่มขึ้น 33.31 จุด หรือ +0.48%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย จากกรณีการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักข่าวชาวซาอุฯ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งระบุว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 71.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 80.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1230.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 14.727 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ 846.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 17.40 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1078.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย.

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.89 เยน จากระดับ 112.18 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9873 ฟรังก์ จากระดับ 0.9892 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2986 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ  1.3018 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1583 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1555 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3154 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3097 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7105 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button