สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 25 ต.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์, เทสลา และคอมแคสต์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,984.55 จุด พุ่งขึ้น 401.13 จุด หรือ +1.63% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,705.57 จุด เพิ่มขึ้น 49.47 จุด หรือ +1.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,318.34 จุด เพิ่มขึ้น 209.94 จุด หรือ +2.95%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ด้านงบประมาณของรัฐบาลอิตาลี หลังจากสหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธร่างงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 355.06 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,307.12 จุด เพิ่มขึ้น 115.49 จุด หรือ +1.03% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,032.30 จุด เพิ่มขึ้น 79.21 จุด หรือ +1.60% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.10 จุด เพิ่มขึ้น 41.12 จุด หรือ +0.59%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,004.10 จุด เพิ่มขึ้น 41.12 จุด หรือ +0.59%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เนื่องจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงบวกจากการที่ซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณเข้าแทรกแซงเพื่อลดสต็อกน้ำมันในตลาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 67.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือเกือบ 1% ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1232.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4.6 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 14.63 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 831.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 24.70 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 1087.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งรวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ที่ยังคงมีการขยายตัวในเดือนก.ย.

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1359 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1387 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2815 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2880 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7085 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7064 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 112.58 เยน จากระดับ 112.41 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0004 ฟรังก์ จากระดับ 0.9972 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3078 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3017 ดอลลาร์แคนาดา

 

Back to top button