BEAUTY ควง DDD พุ่งกระฉูด! จ่อรับผลดีรัฐออกมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีน หนุนยอดขายเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 11.28 น. ราคาหุ้น บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY อยู่ที่ 10.30 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 3% สูงสุดที่ 10.80 บาท ต่ำสุดที่ 10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.36 พันล้านบาท

ขณะเดียวกัน ราคาหุ้น บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD อยู่ที่ระดับ 30.50 บาท บวก 2.75 บาท หรือ 9.91% สูงสุดที่ 31.75 บาท ต่ำสุดที่ 28 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 216.22 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น คาดว่ามาจากการคาดการณ์ว่ารัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลบวกระยะสั้นกับหุ้นที่มีนักท่องเที่ยวจีนเป็นลูกค้าสำคัญอย่าง BEAUTY และ DDD

โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEAUTY ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท/หุ้น โดยมองว่ากำไรสุทธิของ BEAUTY ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/61 คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 317 ล้านบาท และรายได้ที่ขยายตัวโดดเด่นอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท (โต 3.9% เมื่อเทียบจากปีก่อน และโต 31.4% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน) จาก 1) รายได้ที่ขยายตัวทุกช่องทาง 2) การขยายสาขา โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/61 มีทั้งหมด 366 สาขา และ 3) Gross profit margin ขยายตัวจากไตรมาสก่อน แม้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกคิดเป็น 65.6% ของกำไรสุทธิปี 2018 แต่มองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/61 จะเติบโตก้าวกระโดดทั้งเมื่อเทียบไตรมาสก่อนและเมื่อเทียบจากปีก่อน

ทั้งนี้เนื่องจาก BEAUTY จะเข้าสู่ High Season ในไตรมาส 4 คาดรายได้ในประเทศเติบโตโดดเด่น และเริ่มรับรู้รายได้จากการทำตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น มาเลเซีย, สิงค์โปร์ซึ่งอยู่ระหว่างเซ็นสัญญากับ Distributor จึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 อยู่ที่ 1,304 ล้านบาท เพิ่ม 6% เมื่อเทียบจากปีก่อน

นอกจากนี้มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา 41.8% ในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว และมี Short term catalyst จากการซื้อหุ้นคืนที่ 64 ล้านหุ้น (ครบกำหนด 23 ม.ค. 2019) ปัจจุบันมีการซื้อคืนทั้งสิ้น 12.7 ล้านหุ้น คงเหลืออีก 51.3ล้านหุ้น และคาดรัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเร็วๆนี้ ส่งผลบวกระยะสั้นกับหุ้นที่มีนักท่องเที่ยวจีนเป็นลูกค้าสำคัญอย่าง BEAUTY และ DDD (ถือ / 36บาท)

ด้าน บล.ฟิลลิป  (ประเทศไทย) ระบุในทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น DDD ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท/หุ้น แม้ว่าคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเจอมรสุมรุมเร้ายอดขายทั้งในและต่างประเทศลดลงจากปัจจัยที่แก้ไขไม่ได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 2/61, การจัดลดราคาสินค้าเคลื่อนไหวช้าที่คาดกดดัน GPM ลงมาอยู่ที่ 52.6% จากไตรมาส 2/61 ที่ 66.4% และไตรมาส 3/60 ที่ 63.8% อีกทั้ง SG&A/Sales คาดยังสูงแตะ 55.9% จากไตรมาส 2/61 และไตรมาส 3/60 ที่ 51.4% และ 49.3% ตามลำดับ หลังมีค่าโฆษณาตัวใหม่

อย่างไรก็ตามคาดเห็นการฟื้นตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนตั้งแต่ไตรมาส 4/61 ทั้งจากแรงหนุนช่วง High Season กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย, การออกสินค้าตัวใหม่ (ICY MASK) รวมถึงยอดขายจากต่างประเทศที่คาดดีขึ้นในฟิลิปปินส์ ส่วนจีนคาดชัดเจนในปีหน้า หลังยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ตเนอร์รายใหม่

ส่วน บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น DOD ให้แนวรับ 14.20 บาท แนวต้าน 15.20 บาท Cut loss 13.90 บาท โดยราคายังพักตัวในกรอบตามรูป โดยราคาเริ่มปรับตัวขึ้นจากฐานอีกทั้งกลับมายืนเหนือเส้น EMA ทุกเส้นได้อีกครั้ง สอดคล้องกับค่าสัญญาณ RSI ที่ชี้ขึ้นทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้