แรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ดัน SET ภาคเช้าพุ่งกว่า 10 จุด ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,693 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 11.20 น. อยู่ที่ระดับ 1,678.71 จุด บวก 11.16 จุด หรือ 0.67% สูงสุดที่ระดับ 1,680.31 จุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,672.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.98 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นดันดัชนี

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินแนวโน้มตลาดวันนี้ โดยคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways Up ขึ้นทดสอบระดับ 1,675-1,680 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกจากคอมเมนต์เชิงบวกของทรัมป์เกี่ยวกับประเด็นการค้ากับจีนที่คาดว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกในการประชุม G20 ปลายเดือนนี้ ทำให้นักลงทุนคลายกังวลมากขึ้น

ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าเร็วทำให้กระแสเงินทุนคาดว่าจะชะลอการไหลออกหรือพลิกมาไหลเข้าไทยในระยะสั้น อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงนี้คือผลประกอบการไตรมาส 3/61 ของกลุ่ม Real Sector และตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานเดือน ต.ค. คืนนี้ของสหรัฐฯ

ส่วน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินตลาดหุ้นช่วงสั้นๆ วันนี้ดีขึ้นจากความกังวลสงครามการค้าที่เบาลง หนุนให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด หุ้นที่เป็น top picks วันนี้ หุ้นขนาดใหญ่ที่คาดมีแรงซื้อกลับ ประกอบด้วย AOT, CPN, KBANK หุ้นอิงผลบวกเลือกตั้งและรัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจ AMATA, STEC, CPALL และหุ้นที่มีประเด็นบวกอื่น ๆ THANI, ERW, TPIPP, HANA และ QH

 

ด้าน บล.เคที ซีมิโก้ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นโดยมีแนวต้าน แนวต้าน 1676/1693 จุด แนวรับ 1664/1650 จุด โดยปัจจัยภายนอกที่มีพัฒนาเชิงบวก ทั้งเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และการเจรจาข้อตกลง Brexit ของอังกฤษและ EU ช่วยลดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ตลาดไม่ได้ให้ความหวังมากนักต่อการเจรจานอกรอบการประชุม G20 แต่หากสหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ จะถือเป็น surprise เชิงบวก และเป็นผลดีอย่างมากต่อสินทรัพย์เสี่ยง

ขณะที่โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยยังถือว่ายังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ด้านปัจจัยกดดัน มาจากการอ่อนตัวลงแรงของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งน่าจะส่งผลกดดันต่อเนื่องในราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยจับตาวันนี้ อยู่ที่การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ