สมคิดกับทฤษฎีสามานย์
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวกับ CEO บริษัทชั้นนำทั่วโลก ในงานสัมมนา Forbes Global CEO Conference ว่า หลังจาก The Lost Decade หรือทศวรรษแห่งการสูญเสียประเทศไทยใช้เวลา 3-4 ปี นำความสงบและเสถียรภาพทางการเมืองกลับคืนมา จากที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ป่วยแห่งอาเซียน จีดีพีต่ำกว่า 1% ผ่านไป 3 ปี จีดีพี 4.8% บังเอิญระฆังจะหมดยก จะมีเลือกตั้งต้นปีหน้า แต่อย่าวิตก แผนงานโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลวางไว้จะไม่สะดุด เพราะมีลางสังหรณ์ว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจจะหน้าตาคล้าย ๆ คนเดิม
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวกับ CEO บริษัทชั้นนำทั่วโลก ในงานสัมมนา Forbes Global CEO Conference ว่า หลังจาก The Lost Decade หรือทศวรรษแห่งการสูญเสียประเทศไทยใช้เวลา 3-4 ปี นำความสงบและเสถียรภาพทางการเมืองกลับคืนมา จากที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ป่วยแห่งอาเซียน จีดีพีต่ำกว่า 1% ผ่านไป 3 ปี จีดีพี 4.8% บังเอิญระฆังจะหมดยก จะมีเลือกตั้งต้นปีหน้า แต่อย่าวิตก แผนงานโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลวางไว้จะไม่สะดุด เพราะมีลางสังหรณ์ว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปอาจจะหน้าตาคล้าย ๆ คนเดิม
ถอดความหมายคือ สมคิดบอกนักลงทุนต่างชาติให้เชื่อมั่น อย่ากังวลว่าการเลือกตั้งจะมีผลให้เปลี่ยนนโยบาย หรือเปลี่ยนรัฐบาล ยังไง ๆ ก็จะมีการสืบทอดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมา สมคิดจะกลับมา ทุกอย่างยังเดินหน้า EEC รถไฟความเร็วสูง ฯลฯ ไม่ชะงัก
ฟัง ๆ ดูก็สร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดีนะ เพียงแต่เสียดาย สมคิดไม่พูดให้ชัดกว่านี้ เช่นอธิบายกับนักลงทุนต่างชาติว่า รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย เอื้อประโยชน์ต่อการสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ เพราะจะมี 250 ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้ง เลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ
ยิ่งกว่านั้น ยังมีพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง 4 รัฐมนตรีคนใกล้ตัวก่อตั้ง โดยสมคิดไม่รู้ไม่เห็น แต่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เป็นหลักประกันว่าทีมเศรษฐกิจเดิมจะกลับมา เพราะมีฐานกลุ่มสามมิตร ที่สนิทกับสมคิดตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ไล่ดูด ส.ส. ดูดลูกเจ้าพ่อมาร่วมพรรค แถมมีรองประธาน สนช.เอื้อเฟื้อ พาว่าที่ผู้สมัครร่วมกิจกรรมไทยนิยม
ในขณะเดียวกัน ยังจะเป็นการจัดเลือกตั้งใต้ ม.44 โดย กกต.ที่ตั้งจาก สนช.ชุดนี้ รัฐบาลยังมีอำนาจอนุมัติงบประมาณ โยกย้ายข้าราชการ ไม่เหมือนรัฐบาลปกติ แต่ไม่ต้องมีต่างชาติสังเกตการณ์ ตรวจความโปร่งใส เพราะ “ไม่เป็นมงคล”
สิ่งที่สมคิดพูด เป็นไปตามทฤษฎีที่เชื่อว่านักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ไม่ได้สนใจความเป็นประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเป็นธรรม ขอเพียงมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ควบคุมสังคมให้สงบ เศรษฐกิจการค้าการลงทุนก็จะไปโลด
ที่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง ก็เพราะต่างชาติ โดยเฉพาะอียู มีข้อบังคับว่าจะเจรจาการค้ากับรัฐบาลจากการเลือกตั้งเท่านั้น จึงต้องแปลงร่างจากรัฐบาลทหารเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจ โดยอาศัยกลไกรัฐธรรมนูญที่ร่างไว้ให้ตัวเองได้เปรียบ
แน่นอนว่าทฤษฎีนี้จะนำมาโหมประโคม กับกลุ่มทุน ภาคธุรกิจ ตลอดจนคนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จ เช่นที่ พล.อ.ประยุทธ์พูดในงาน “สตาร์ทอัพร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย” เราเดินมาถูกทางแล้ว มีแผนงาน มียุทธศาสตร์ชาติ ที่ต้องสานต่อให้เกิดความยั่งยืน
ดังนั้น อย่าไปฟังแร็ป “ประเทศกูมี” ต้องฟัง Thailand 4.0 ตามสุวิทย์ เมษินทรีย์
ฟิลิป คอตเลอร์ คงสอนมาดี จนสามารถใช้การตลาดค้ำจุนสืบทอดอำนาจที่ไม่ชอบธรรม ทศวรรษแห่งการสูญเสียเกิดเพราะรัฐประหาร เพราะการทำลายประชาธิปไตยไม่หยุดยั้ง ประเทศป่วย จีดีพีต่ำกว่า 1% ก็เพราะชัตดาวน์ขัดขวางเลือกตั้ง ปูทางยึดอำนาจ 5 ปี ใช้ปืนใช้คำสั่งบังคับสังคมสงบ เอาโครงการสาธารณูปโภครัฐบาลก่อน ๆ มาทำ แล้วก็บอกประชาชนอย่าวุ่นวาย อย่าต่อต้าน ยอมให้สืบทอดอำนาจอย่างด้าน ๆ เศรษฐกิจจะดีอย่างยั่งยืน
นี่คือทฤษฎีสามานย์ ที่บอกให้โยนทุกอย่างทิ้ง เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความยุติธรรม ฯลฯ สยบยอมอำนาจไม่ชอบธรรม แล้วปากท้องจะดี
ภาคธุรกิจไทยคงยอมรับได้ เพราะส่วนใหญ่เติบโตมาในสังคมสามานย์อย่างนี้ แต่ประชาชนสิจะยอมรับได้ไหม แค่ฟังคนหน้าเดิมบ่นว่า คนจนเยอะ เพราะไม่คิดพัฒนาตัวเอง ก็ทุเรศใจ